DBWG บทที่ 31 : ผลกระจายวิญญาณ
DBWG บทที่ 31 : ผลกระจายวิญญาณ
ขุนเขาแห้งแล้งก็อันกว้างใหญ่ อย่างไรก็ตาม เมืองไป่เห๋อหยางที่อยู่ใหล้ที่สุดก็มีผู้ฝึกตนเพียงสองคนเท่านั้น ที่อยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 5 พวกเขาคือผู้นำตระกูลไป่และตระกูลหยาง ดังนั้นเมื่อมีผู้ฝึกตนคนอื่นๆที่อยู่ขั้นที่ 9 หลงเฉินจึงรู้สึกประหลาดใจมาก
"ซีน้อย สิ่งที่เจ้ากล่าวยาจิตวิญญาณยังไม่สุกหมายความว่าอย่างไร?
"ยาจิตวิญญาณทั้งหมดต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในสุกงอมเต็มที่ก่อนที่จะสามารถถอนได้ นี่แม้กระทั่งยาจิตวิญญาณระดับสูง ตอนนี้เราอยู่ห่างจากมันเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเข้าไปใกล้กว่านี้ ข้าสามารถบอกถึงชนิดของมันได้"
ตอนนี้เนื่องจากยังคงเร็วเกินไปที่จะสังหารไป่ชวี่ฉือ และลักษณะของ หลงเฉินเป็นผู้ที่ชื่นชอบผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆ หากมีสมบัติจริงๆเขาก็จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป
อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9 ผู้ซึงทะลวงเส้นโลหิตมังกรสวรรค์ได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังเป็นแย่างมาก
หลงเฉินเดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้และหลังจากข้ามเนินเขาไม่กี่แห่งแล้วหุบเขาลึกลงไป เต็มไปด้วยต้นไม้หนาแน่น ท่ามกลางหุบเขาเป็นที่อากาศชื้นกระจายอยู่ในอากาศและเมื่อมาถึงจุดนี้หลงเฉินรู้สึกว่าเขาหายใจไม่ค่อยสะดวกนัก
"หยุด"
หลังจากฟังคำเตือนของหลิงซี หลงเฉินซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้เก่าแก่ที่สูงและไร้ชื่อ เมื่อถึงจุดนี้หลิงซีได้ส่งจิตสำนึกของนางไปยังหุบเขาซึ่งเต็มไปด้วยถ้ำหินจำนวนมากและรอยเท้ามนุษย์ไม่กี่รอย หลิงซีอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่นางเห็นต่อหลงเฉิน
"ข้าไม่แน่ใจว่านั่นคืออะไร แต่ข้าสามารถยืนยันได้ว่านี่เป็นยาจิตวิญญาณระดับลึกล้ำ... "
"ระดับลึกล้ำ?"
"เหนือระดับปฐพีจะเป็นระดับลึกล้ำ คนเช่นเจ้าที่มาจากเมืองไป่เห๋อหยาง ยาระดับลึกล้ำราคาแพงกว่าชีวิตของเจ้ามากและข้าเชื่อว่าแม้ว่าเจ้าจะขายเมืองไป่เห๋อหยาง แต่ราคาที่ได้จะไม่สามารถแม้แต่จะซื้อยาจิตวิญญาณระดับลึกล้ำได้”
หลิงซีกล่าวอย่างจริงจัง แต่อารมณ์ในหัวใจหลงเฉินเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขารู้ดีว่าในโลกของผู้ฝึกตนยังมีขอบเขตที่เหนือกว่าขอบเขตชีพจรมังกร และคุณชายหยางควรอยู่ในขอบเขตนั้น นอกจากนี้เขายังรู้ด้วยว่ายังมีสัตว์ปีศาจที่อยู่เหนือระดับปฐพีด้วย อย่างเช่นอสูรหมาป่ากลืนจันทรา
ไม่ว่าจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ยาจิตวิญญาณหรือทักษะการต่อสู้ยังคงมีระดับที่สูงกว่านี้
โดยปกติแล้วผู้ฝึกตนในบางขอบเขต จะเสริมตัวเองด้วยทักษะการต่อสู้ในระดับเดียวกันและต่อสู้กับสัตว์ปีศาจในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยาจิตวิญญาณตามธรรมชาติระดับที่สูงขึ้นก็ยิ่งดีมากขึ้น ยาจิตวิญญาณระดับลึกล้ำถูกใช้โดยผู้ฝึกตนขอบเขตชีพจรมังกรจะมีประโยชน์อย่างมาก
สำหรับตระกูลขนาดใหญ่ทั้งสองในเมืองไป่เห๋อหยาง ถ้าใครได้รับยาจิตวิญญาณดังกล่าว พวกเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้นและมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน
ด้วยคำแนะนำของหลิงซี หลงเฉินอีกครั้งได้หมอบคลานเข้ามาใกล้และถึงจุดนี้เขาเกือบจะถึงถ้ำหิน เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ที่ปลดปล่อยออกมาจากบางคนผู้ซึ่งนั่งอยู่เงียบๆที่ไหนสักแห่งไม่ไกลและหลงเฉินกลั้นหายใจไม่และกล้าที่จะขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
เมื่อถึงจุดนี้หลิงซีเปล่งเสียงดังกังวานซึ่งฟังดูคล้ายกับยุงที่หูข้างหู
"ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นยาที่หาดูได้ยากเช่นผลกระจายวิญญาณและมันยังมีรวมกันถึง 3 ผล...... "
"ผลไม้เหล่านี้ผิวด้านนอกยังคงเป็นสีเขียว แต่ผลไม้ชนิดนี้จะสุกได้อย่างรวดเร็วและจากการสังเกตของข้า มันควรจะเป็นระยะเวลาประมาณ 8-9 วันก่อนที่ทั้งผลทั้ง 3 พร้อมที่จะเก็บเกี่ยว..... "
เมื่อหลิงซีได้รับรู้ถึงชนิดของยาจิตวิญญาณและรู้เรื่องระยะเวลาที่พร้อมเก็บเกี่ยวของผลไม้ หลงเฉินรู้ว่าเขาไม่ต้องรออีกต่อไป
หายใจเข้าลึก หลงเฉินกำลังจะจากไป แต่ในขณะนี้ชายลึกลับผู้คอยเฝ้าผลไม้ก็ยืนขึ้นและเดินมาทางของเขา
หลงเฉินปรากฏเหงื่อเย็นชุ่มไปทั้งร่าง
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ถูกค้นพบโดยบุคคลนั้น แต่เพียงแค่โชคของเขาเลวร้ายเกินไป เขาต้องเผชิญกับชายลึกลับเมื่อชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเริ่มยืดร่างกายของเขาขณะที่กำลังมองไปรอบๆบริเวณภายนอก
ถ้าเป็นกรณีนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของหลงเฉินกับขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9 ถ้าชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เพียงเล็กน้อย หลงเฉินอาจถูกค้นพบ
ถ้ามันเกิดขึ้นและภายใต้ระยะห่างดังกล่าว เขาจะมีปัญหา
หลงเฉินทันใดนั้นใจของเขาก็เต้นรัวและก่อนที่อีกฝ่ายสามารถค้นพบเขา เขาใช้ความแรงของการระเบิดและรีบวิ่งไปทางออกของหุบเขาและซ่อนตัวอยู่ในไม้พุ่ม!
“ใคร!?”
คนๆนั้นตกใจมากและรีบวิ่งออกไป ความเร็วของขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9 เป็นไปอย่างรวดเร็วและหลงเฉินรู้สึกถึงสายลมรุนแรงมาจากด้านหลังของเขา
พุ่มไม้ทั้งหมดก็ระเบิดและมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งได้กวาดไปทางหลงเฉิน แม้ว่าหลงเฉินได้เปลี่ยนเส้นทางในขณะที่หลบหนีอยู่เขาก็ยังไม่สามารถสลัดคนๆนี้ได้
"คนๆนี้กำลังปกป้องผลกระจายวิญญาณ เขาควรจะกลัวข้าโดยใช้กลยุทธ์ในการเคลื่อนย้ายเสือออกไปจากภูเขา!"
[TL : (调虎离山之计) "กลยุทธ์ในการเคลื่อนย้ายเสือออกไปจากภูเขา" หมายถึง การล่อคนออกไป]
สมองของหลงเฉินทำงานได้อย่างรวดเร็วและคิดเช่นนี้เขาก็วางนิ้วลงในปากแล้วเป่าออกมา
ตามที่คาดไว้เมื่อเสียงหวีดหวิวดังขึ้น ชายลึกลับคนนั้นก็ค่อยๆขุ่นเคือง เมื่อเห็นว่าเขายังอยู่ห่างจากหลงเฉิน หลงเฉินสร้างแสงสะท้อนเจิดจ้าและชายลึกลับก็หันไปมองรอบๆ!
เมื่อมาถึงจุดนี้ หลงเฉินหันกลับไปมองชายลึกลับ นี่เป็นชายที่อายุใกล้กับผู้ก่อตั้งตระกูลหยางและถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วร่างกายของเขาก็ยังแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่น และสายตาของเขาก็เฉียบคม!
หลงเฉินสามารถเอาตัวรอดได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้หลิงซีรู้สึกประทับใจมาก หนึ่งต้องเข้าใจว่าจำนวนคนที่สามารถคิดวิธีเพื่อปกป้องชีวิตของพวกเขาที่จุดสำคัญเป็นตายเช่นนี้ได้มีไม่มาก
หลงเฉินมองไปที่ร่างที่กำลังเคลื่อนออกไปและในเวลาเดียวกันก็ถามว่า: "ซีน้อย ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลกระวิญญาณนั้นมีอะไรบ้าง?"
"ถ้าเราพูดถึงเรื่องนี้มันควรจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเจ้า ผลกระจายวิญญาณเป็นยาจิตวิญญาณระดับลึกล้ำและเมื่อเจ้ากินมันในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9 เจ้าจะสามารถพึ่งพาคุณสมบัติทางยาของยาจิตวิญญาณและทำให้ปราณฉีของเจ้ากลั่นตัวเป็นแดนมนุษย์ในตันเถียนและเข้าไปในขอบเขตแดนเทวะ"
"ขอบเขตแดนเทวะ?"
ตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นในเส้นทางนี้ หลงเฉินไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะและตอนนี้เขากำลังเรียนรู้ มันปรากฏออกมาว่ามีขอบเขตต่อจากที่ขอบเขตชีพจรมังกร เรียกว่า 'ขอบเขตแดนเทวะ' และวิธีการที่จะตัดผ่านเข้าขอบเขตนี้ไม่ใช่การทะลวงเส้นโลหิตมังกรทั้งเก้า แต่จะกลั่นปราณฉีของเขาให้เป็นแดนมนุษย์
มองไปที่หลงเฉินผู้ซึ่งดูเหมือนจะเข้าใจและยังไม่เข้าใจ หลิงซีช่วยกล่าวว่า "ขอบเขตแดนเทวะ แบ่งออกเป็นสามระดับคือ แดนมนุษย์ แดนปฐพี และ แดนสวรรค์ และแต่ละระดับจะถูกแบ่งออกเป็นช่วงต้น ช่วงกลางและช่วงปลาย เพื่อให้เจ้าสามารถแบ่งแยกขอบเขตแดนเทวะเป็น 9 ขั้นตอน โอ้ ใช่ คุณชายหลางเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตแดนสวรรค์"
หลงเฉินมีความกระหายใคร่รู้ในเรื่องนี้ ในความเป็นจริงเขาค่อนข้างฉลาดและตระหนักดีว่ามีอยู่ 9 ขั้นในขอบเขตชีพจรมังกรและขอบเขตแดนเทวะก็ได้แบ่งแยกออกเป็น 9 ขั้นเท่านั้น เขาตระหนักว่าช่วงต้นของขอบเขตแดนมนุษย์ถึงช่วงปลายของขอบเขตแดนสวรรค์แตกต่างกันอย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับความแตกต่างจากขั้นที่ 1 ของขอบเขตชีพจรมังกรถึงขั้นที่ 9 ของขอบเขตชีพจรมังกร
ก่อนหน้านี้หลิงซีกล่าวว่าผู้ก่อตั้งตระกูลหยางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแม้แต่กระบวนท่าเดียวของคุณชายหลาง ในความเป็นจริงค่อนข้างเหมาะสมแล้วที่จะกล่าวเช่นนี้
คุณชายหลางผู้ซึ่งอายุยังน้อยมีความสำเร็จที่น่ากลัวและอีกครั้งหลงเฉินเข้าใจอย่างแท้จริงว่า "ยังมีบางคนเหนือกว่าเสมอ"
อย่างไรก็ตามหลงเฉินไม่ได้กลัว เขามีบิดาผู้ลึกลับ หลิงซีผู้ซึ่งค่อนข้างจะลึกลับ แต่ยังมีตัวช่วยของเขาอย่างจี้หยกรูปมังกรลึกลับและแม้กระทั่งหยดโลหิตของมังกรโลหิตจิตวิญญาณโบราณ ทั้งหมดนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่ง!
ด้วยทักษะเหล่านี้ เช่นเดียวกับการเรียนรู้ทักษะปราณฉีแปรสภาพโลหิต เขาเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะไปถึงระดับของคุณชายหยาง
สิ่งที่หลงเฉินกังวลจริงๆในยามนี้คือการใช้ประโยชน์จากผลกระจายวิญญาณ
"นั่นหมายความว่าถ้าตระกูลหยางของเจ้าได้รับผลกระจายวิญญาณทั้ง 3 ผล มีแนวโน้มที่จะบ่มเพาะผู้ฝึกตนขอบเขตแดนเทวะได้ถึง 3 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่เพียงพอสำหรับตระกูลเล็กๆที่คุณเช่นเจ้าที่จะเป็นเจ้าเมืองในรัศมีลี้"
คำกล่าวของหลิงซีทำให้หลงเฉินอยากได้ อย่างไรก็ตาม ผลกระจายวิญญาณเหล่านี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากและถ้าผู้ก่อตั้งตระกูลหยางรู้ เขาควรจะตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
หลงเฉินรู้ดีว่ผู้ก่อตั้งตระกูลหยางเข้าสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9 มาเป็นเวลาหลายปีแล้วและหากว่าเขาได้รับผลกระจายวิญญาณแล้ว การบ่มเพาะของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมกับอายุขัยของเขา โดยทั่วไปแล้วจะเป็นขั้นตอนสู่สวรรค์!
"วันที่ผลกระจายวิญญาณสุกงอม ในความจริงเป็นเพียงระยะเวลาไม่กี่วันจากนี้ ตอนนี้ข้ากำลังอยู่ในการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจและงานที่สำคัญที่สุดของข้าคือการสังหารไป่ชวี่ฉือ สำหรับเรื่องที่จะบอกข่าวของผลกระจายวิญญาณนี้กับผู้ก่อตั้งตระกูลหยาง เราจะตัดสินใจเมื่อถึงเวลา"
หลิงซีพยักหน้าของนางและกล่าวว่า "ผลกระจายวิญญาณสุกงอมจะสร้างปรากฏการณ์และระเบิดกลิ่นแปลกๆออกมา บางคนในเมืองไป่เห๋อหยางที่อยู่ในขั้นสูงของขอบเขตชีพจรมังกรจะสามารถรู้สึกได้และน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด แม้ว่าเจ้าจะไม่พูดอะไรผู้ก่อตั้งตระกูลหยางก็น่าจะรู้ด้วย อย่างไรก็ตาม คนที่มาก่อน ผู้ซึ่งอยู่บนศาลาใกล้น้ำจะได้เพลิดเพลินไปกับแสงจันทร์ก่อน
[TL: (人近水楼台先得月) "คนที่มาก่อน ผู้ซึ่งอยู่บนศาลาใกล้น้ำจะได้เพลิดเพลินไปกับแสงจันทร์ก่อน": หมายถึง การได้รับประโยชน์ก่อนเนื่องจากความใกล้ชิด]
หลงเฉินไม่เคยจินตนาการว่าจะมีแม้แต่ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสุกงอมของยาจิตวิญญาณ หลงเฉินจดจำสถานที่ไว้ในใจของเขาและมองไปที่ป่าในทิศทางหนึ่ง ขณะที่จ้องมองสายตาเขากลายเป็นน้ำแข็ง
"เนื่องจากเราได้ล่าช้าไป่ช่วงเวลาหนึ่ง ไป่ชวี่เฉินควรต่อสู้กับสัตว์ปีศาจอยู่สักพักแล้ว นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียกร้องชีวิตของเขา! "
กล่าวเช่นนั้นแล้วหลงเฉินมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นานหลงเฉินก็เงยหน้าขึ้นและเห็นคุณชายหลางนั่งบนกิ่งของต้นไม้
"ผู้เยาว์ของตระกูลไป่กำลังจะสังหารสมาชิกตระกูลหยางทั้ง 3 คน ข้าคิดว่าเจ้าจะดีกว่าถ้ารีบไปและช่วยให้พวกเขาได้อย่างรวดเร็ว. "
ดวงตาหลงเฉินโตขึ้น เขาเกือบจะคิดว่าเขาได้ยินผิด
"กลุ่มไป่ชวี่ฉือต้องการจะสังหารกลุ่มหยางอู่? เกิดอะไรขึ้น? เมื่อคนเหล่านั้นเข้ามาก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ยังคงข่มขู่ข้าอยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังสังหารกันและกัน? "
คุณชายหลางจะไม่ล้อเล่น สิ่งที่เขากล่าวเป็นความจริงอย่างแน่นอน
หยางอู่และหยางหลิงเยว่ไม่ได้มีความสำคัญต่อหลงเฉิน แต่เขาต้องดูแลหยางหลิงฉิง
"ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหยางหลิงฉิง แน่นอนข้าจะฝังศพเจ้าสารเลวอย่างพวกเจ้าลงหลุมไปด้วยกัน!"
คุณชายหยางมองและชี้ไปที่บริเวณหนึ่งให้หลงเฉินและกล่าวว่า "พวกเขาอยู่ที่นั่น เจ้าต้องเร่งรีบกว่านี้"
หลงเฉินมองไปที่เขาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสและหลังจากกล่าวขอบคุณเขา เขาก็ระเบิดใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของเขาและรีบไปทางนั้น
หลังจากที่เขาจากไป คุณชายหลางขมวดคิ้วพร้อมเคลื่อนร่างไปและพึมพำ: "แปลก ทำไมถึงมีกลิ่นอายของนักรบสัตว์ปีศาจจากเขา? กลิ่นอายนี้ควรเป็นของจิ้งจกโลหิตใต้ดิน......ไม่ มันควรเป็นสิ่งที่คล้ายกับ ราชันย์จิ้งจกโลหิตอเวจี...... "
หลงเฉินเป็นคนใจร้อนมากและในขณะที่เขารีบวิ่งไปข้างหน้าสภาพแวดล้อมแคบลงอย่างต่อเนื่องในมุมมองของเขา
ยังไม่ชัดเจนว่าตระกูลไป่ต้องการจะสังหารหมู่พวกเขาอย่างไร แต่หลงเฉินรู้ว่าทั้งสองตระกูลมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันและหากไม่มีการปะทะกันก็จะเป็นการดี แต่เมื่อมีคนที่อยู่ฝ่ายหนึ่งสังหารคนอื่นๆ ความสัมพันธ์จะถูกตัขาดอย่างแน่นอนและผลที่ได้จะเป็นสงครามจนกว่าฝ่ายหนึ่งจะถูกทำลายล้างอย่างสมบูรณ์
"...... เป็นเพราะตำแหน่งเจ้าเมืองที่ทั้งสองตระกูลปรารถนาหรือ? แต่ตอนนี้พวกเขาแต่งงานกันแล้ว ... "
ในขณะนี้ไม่ว่าเขาจะฉลาดขนาดไหน หลงเฉินก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อถึงจุดนี้เสียงของการต่อสู้ก็เลือนรางดังมาและสายตาหลงเฉินก็เปลี่ยนไป ราวกับเสือดาวเขาเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางป่าทึบ!
ทันใดนั้นพื้นที่ว่างเปล่าปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาและคนสองคนที่กำลังต่อสู้คือหยางหลิงเยว่และไป่ชวี่ฉือที่ทำตัวเหมือนคู่รักที่รักกันก่อนหน้านี้
สายตาของหลงเฉินกำลังวิเคราะห์ฉากนี้และเห็นว่าหยางอู่อยู่บนพื้นหน้าซีดและเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา เขาจ้องมองอย่างโกรธแค้นที่ไป่ชวี่ฉือ ส่วนไป่จื้อซิงและไป่ชวี่ตงพวกเขายืนอยู่ข้างๆ หยางอู่ที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อควบคุมตัวเขา
ในขณะที่ไป่ชวี่ฉือกำลังยุ่งอยู่กับหยางหลิงเยว่เท่านั้น มีบางครั้งที่เขาอาจได้รับบาดเจ็บจากนาง แต่เขาทำเพียงฉีกชิ้นส่วนเสื้อผ้าจากร่างกายของนางในแต่ละครั้ง
เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป เสื้อผ้าบนร่างกายของหยางหลิงเยวค่อยๆเผยร่างอันเร่าร้อนของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ และเกือบจะเกิดแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิปรากฏมาเพื่อจะทำให้โลกมีชีวิตชีวาขึ้น ในขณะนี้นางร้องไห้เหมือนที่เธอทำด้วยน้ำตาดวงตาของเธอแสดงความสิ้นหวังและหมดหนทางมาก!
[TL : (不多春光乍了) "แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิปรากฏมาเพื่อจะทำให้โลกมีชีวิตชีวาขึ้น": ในกรณีนี้หมายถึง เกือบเห็นชุดชั้นใน]
"ไป่ชวี่ฉือ เจ้าสารเลวบัดซบ!"
หยางหลิงเยว่ร้องไห้ขณะที่นางมองไป่ชวี่ฉือที่ฉีกเสื้อผ้าของนางด้วยมือข้างเดียว

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น