DBWG บทที่ 30 : คุณชายหลาง


DBWG บทที่ 30 : คุณชายหลาง






เมื่อทั้งคู่แต่งงานและการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจกำลังใกล้เข้ามา รุ่นเยาว์ที่เข้าร่วมในการแข่งขันหลายคนรู้สึกหงุดหงิด สำหรับคนอื่นๆเพราะความสุขในการแต่งงานพวกเขาทั้งหมดจึงมีรอยยิ้มแสดงบนใบหน้าของพวกเขา


โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ก่อตั้งตระกูลหยางที่หลังจากรอมาครึ่งชีวิตของเขาในที่สุดก็จะเห็นบุตรสาวของเขาเองมีความสุข ปากของเขายิ้มอยู่เสมอทุกวัน


เช้าวันหนึ่งหลงเฉินติดตามหยางหลิงฉิง หยางหลิงเยว่และหยางอู่ภายใต้การนำของหยางฉิงซวน พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังทางเข้าหนึ่งของขุรเขาแห้งแล้งนอกเมืองไป่เห๋อหยาง


สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ทั้งสองตระกูลตกลงที่จะไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมเพราะความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่เพียง พวกเขาแทบจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นถ้าพวกเขาเข้าไปในขุนเขาแห้งแล้งก็อาจจะเป็นภาระ


ด้วยวิธีนี้แต่ละตระกูลจึงได้ส่งรุ่นเยาว์ฝั่งละสี่คน ความแข็งแกร่งของตระกูลหยางอาจด้อยกว่าเล็กน้อย แต่การสั่งหารสัตว์ปีศาจก็ต้องพึ่งโชคด้วย ดังนั้นผู้ชนะและผู้แพ้ก็ยังไม่อาจทราบแน่ชัด


อย่างไรก็ตาม ผู้นำตระกูลหยางและตระกูลไป่ทั้งสองคนนี้ไม่ได้ติดตามมาร่วมงานการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจและทั้งสอง และฉากนี้ของทั้งสองที่ไม่ได้เคลื่อนดาบเข้าหากัน แต่ดูเหมือนจะสลับฉากเป็นการแต่งงาน ทั้งสองคนยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่งงาน ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้คนรุ่นเยาว์ทำตามที่พอใจในการต่อสู้เพื่อตำแหน่งเจ้าเมืองในเมืองไป่เห๋อหยาง


ระหว่างทางหยางหลิงเยว่และหยางอู่เดินด้วยกันขณะที่หลงเฉินและหยางหลิงฉิงเดินตามหลัง


"นี่ แท้จริงแล้วเจ้ามีวิธีปกป้องชีวิตของเจ้าหรือไม่?"


หยางหลิงฉิงถามอย่างจริงจัง


"มีเพียงคนโง่ไม่กี่คนจากตระกูลไป่ พวกเขาจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้อย่างไร? "


หลงเฉินหัวเราะอย่างลึกลับ


หยางหลิงฉิงชั่วขณะมีแสดงออกที่หมดหนทางและกล่าวอย่างวางท่า  "เอาล่ะ ข้าไม่สามารถจะพูดคุยกับเจ้าอีกต่อไป เมื่อได้รับอันตรายจริงๆเพียงเรียกข้าดังๆ ถ้าข้าได้ยินเจ้า ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเจ้า "


หลงเฉินพยักหน้า ในความเป็นจริงเขาได้ชื่นชมน้องสาวของเขาจริงๆ ถ้าไม่ใช่ความผูกพันทางสายเลือด เขาก็อาจจะเดินหน้าต่อไป


อย่างไรก็ตามหลังจากฟังคำกล่าวจองหองของหลงเฉิน หยางอู่และหยางหลิงเยว่หันกลับมามองเขา ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย เมื่อพวกเขาหันกลับไปหยางหลิงเยว่มองพี่ชายของนางและกล่าวเบาๆว่า "ท่านพี่ จำสิ่งที่ท่านสัญญาไว้ด้วย"


หยางอู่พยักหน้าและกล่าวว่า "ถ้าตระกูลไป่ไม่โจมตี ข้าจะสอนบทเรียนให้กับเขา"


ทั้งสองเสียงของพวกเขาเบามาก ดังนั้นหลงเฉินและหยางหลิงฉิงจึงไม่สามารถได้ยินเสียงได้ชัดเจน


ในไม่ช้าพวกเขามาถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขาและ หลงเฉินก็ตระหนักว่ากลุ่มคนห้าคนจากตระกูลไป่ได้มาถึงแล้ว


ผู้นำตระกูลไป่มาร่วมงานเป็นบุตรชายคนที่สี่ไป่จ้านเฟิงและอีกสี่คน จะเป็นผู้เข้าร่วมในการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจ เมื่อพวกเขาได้เห็นหลงเฉินแล้ว ไป่ชวี่ฉือก็แสยะยิ้มและชี้ไปที่หลงเฉิน


หลงเฉินรู้ว่าไป่ชวี่ฉือต้องการจะสื่อถึงดัชนีกาฬสวรรค์


นี่เป็นการยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด แต่หลงเฉินแกล้งทำเป็นไม่เห็น แม้ไม่ได้มองไปที่ไป่ชวี่ฉือ เขาก็มองไปที่คนที่ยืนอยู่แถวหน้า เขาเป็นผู้คุมการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจที่มาจากตระกูลหลิงหวู่จากเมืองหลิงหวู่


คนผู้นี้สวมเสื้อคลุมสีดำปักลายและมีผ้าคลุมอยู่บนศีรษะ รูปลักษณ์ของเขาถูกปิดบัง แต่ร่างกายของเขากระจายแสงสว่างจางๆ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้สำหรับหลงเฉิน


"เขาแข็งแกร่งแค่ไหน?"


"บอกได้ว่าเมืองบางนอกอย่างพวกเจ้าจะไม่มีประสิทธิภาพ แค่เข้าใจว่าท่านปู่ของเจ้าไม่สามารถต้านทานได้แม้กระบวนท่าเดียวของเขา"


ประโยคแบบสบายๆเช่นนี้ทำให้ขนทั้งหมดของหลงเฉินลุกชัน!


ที่หลิงซีกล่าว สังหารท่านปู่ของเขาได้ในกระบวนท่าเดียวไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ ในโลกของหลงเฉิน เป็นตัวตนที่ดำรงอยู่เช่นใดกันที่สามารถจบชีวิตของคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่หลงเฉินรู้จัก ท่านปู่ของเขา ในกระบวนท่าเดียว?


เขามองคนผู้นั้นด้วยสายตาที่มั่นคงและคนผู้นั้นก็มองไปที่หลงเฉิน ในยามนี้ดูเหมือนเขาจะประหลาดใจ อย่างไรก็ตามไม่นานนักเขาก็ไมมองหลงเฉินอีกต่อไป


เมื่อมาถึงจุดนี้หยางฉิงซวนจับมือและทักทายว่า "คุณชายหลาง รุ่นเยาว์ของตระกูลหยางถูกพามาที่นี่แล้ว"


"อืม แล้วเราจะออกเดินทางไปยังขุนเขาแห้งแล้งลองมาที่ ทั้งสองคนกลับไปก่อน ตระกูลหลิงหวู่จะตัดสินผลอย่างเป็นธรรม"


หยางฉิงซวนและไป่จ้านเฟิงไม่กล้าขัดคำพูดของเขา ดูเหมือนว่า ที่หลิงซีกล่าวจะเป็นความจริง


ฟังเสียงของเขา หลงเฉินคาดว่าเขาอายุน้อยมากแทบไม่ต่างจากรุ่นเยาว์ที่อยู่ที่นี่


"เจ้าต้องรู้ว่ายังมีภูเขาที่อยู่นอกภูเขา และกลุ่มคนที่อยู่นอกกลุ่มคน เจ้าที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะในเมืองไปเห๋อหยาง หลังจากที่ไปถึงแผ่นดินหลักเป็นเพียงอึที่ไร้ประโยชน์ต่อสายตาของคนอื่นเท่านั้น"


[TL : ยังมีบางคนที่แข็งแกร่งกว่าเสมอ]


คำกล่าวของหลิงซีได้เตือนให้หลงเฉินรู้ว่าประสบการณ์ของเขามีจำกัด อย่างไรก็ตามพวกมันจะขยายกว้างขึ้นในครั้งนี้ หลงเฉินรู้สึกประทับใจกับคนวัยเดียวกันที่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้จริงๆ


หยางฉิงซวนและไป่จ้านเฟิงเดินด้วยกัน และโดยไม่กล่าวอะไรอีก คุณชายหลางก็เดินตรงไปยังขุนเขาแห้งแล้ง รุ่นเยาว์มองกันและกัน แล้วก็รีบตามไป


หยางอู่และหยางหลิงเยว่ในไม่ช้าก็เดินไปด้วยกันกับตระกูลไป่ หยางหลิงฉิง ผู้ซึ่งเห็นหลงเฉินเดินตามลำพังอยู่ข้างหลังพวกเขาจึงลังเลใจและตัดสินใจที่จะอยู่ข้างๆเขา


เมื่อมาถึงจุดนี้หยางหลิงเยว่กำลังพูดคุยอย่างมีความสุขกับไป่ชวี่ฉือและทันใดนั้นนางก็เห็นว่าหยางหลิงฉิงได้เดินด้วยกันกับหลงเฉิน ใบหน้าของนางแสดงความโกรธชั่วขณะและนางกล่าวว่า "หลิงฉิง มาที่นี่ พี่ใหญ่ไป่ชวี่เฉินต้องการพบเจ้า"


ด้านข้างของนางคือไป่ชวี่เฉินซึ่งมีการบ่มเพาะยิ่งใหญ่กว่าของไป่ชวี่ฉือ เขายิ้มให้หยางหลิงฉิงอย่างสนิทสนมและภายใต้แสงอรุญบามเช้าราวกับว่าเขาเป็นบุตรแห่งสวรรค์ แม้แต่หยางหลิงเยว่ก็หันไปมองเล็กน้อย


อย่างไรก็ตามหยางหลิงฉิงไม่ได้ตกอยู่ในเสน่ห์นี้และขณะที่นางอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก นางกล่าวว่า "พี่สาวหลิงเยว่ ข้ายังอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับพี่ชายเฉิน......"


หยางหลิงเยว่ผู้ซึ่งสูญเสียใบหน้า ทั้งสองคนจากตระกูลไป่ก็ไม่มีความสุขในชั่วพริบตา เมื่อเห็นเช่นนี้ใบหน้าของหยางหลิงเยว่เปลี่ยนสีเล็กน้อย หลงเฉินก็บอกว่า "หลิงฉิง ไปก่อนถ้า ในกรณีนี้ถ้าเจ้าไม่ไปพวกเขาจะไม่ให้เจ้าติดตามไปภายหลัง"


เขาต้องการเคลื่อนไหวตามลำพัง ถ้าหยางอู่และหยางหลิงเยว่ทิ้งนางไว้เบื้องหลัง อันตรายอันมากมายที่ซ่อนอยู่ในขุนเขาแห้งแล้งมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนาง


หยางหลิงฉิงได้คิดถึงจุดนี้ด้วย จากนั้นนางก็หันไปหาหลงเฉินด้วยสายตาขอโทษ และเดินไปข้างหน้า หยางหลิงเยว่ยิ้มและแนะนำหยางหลิงฉิงให้กับเด็กหนุ่มทั้งสอง


หยางหลิงฉิงในความเป็นจริง มีเสน่ห์มากว่าหยางหลิงเยว่ ดังนั้นไป่ชวี่เฉินผู้ซึ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา ได้บอกนางเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระในชีวิตของเขาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อนางเดินเข้ามา


"ต้องการสนิทสนมกับน้องสาวของข้าหรือ หึ ข้าจะตอนเจ้าในภายหลัง" หลงเฉินคิดอย่างโหดร้าย


ในไม่ช้าพวกเขามาถึงขุนเขาแห้งแล้ง


คุณชายหยางหันกลับมาและกล่าวว่า "ก่อนดวงอาทิตย์ตก พวกเจ้าต้องรีบกลับมาที่นี่และมอบแก่นแท้พลังงานปีศาจให้ข้าตรวจดู"


ทันใดนั้นเสียงของเขาก็เย็นชาและกล่าวว่า "ข้าเป็นสมาชิกของตระกูลหลิงหวู่ ดังนั้นอย่าพยายามใช้กลโกงใดๆต่อหน้าข้า การเคลื่อนไหวทั้งหมดของพวกเจ้า อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของข้า เฉพาะวิธีการสังหารสัตว์ปีศาจด้วยมือของพวกเจ้าเองจึงจะนับ สำหรับแก่นแท้พลังงานทุกๆอันที่ได้จากวิธีอื่นๆ ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!


"พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องคาดเดาว่าข้าจะเฝ้าดูพวกเจ้าอย่างไร ถ้าเจ้าต้องการเล่นกลโกง ด้วยความยินดี แต่เมื่อเจ้าตายอย่าได้โทษข้าสำหรับเรื่องนี้ นอกจากนี้เจ้าสามารถชิงแก่นแท้พลังงานจากฝ่ายตรงข้าม และเจ้ายังสามารถสังหารพวกเขา เรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากตระกูลหลิงหวู่! "


เสียงของคุณชายหลางได้นำพลังวิเศษลึกลับมาพร้อมกับมัน และแม้กระทั่งไป่ชวี่เฉิน ผู้ที่มีการบ่มเพาะแข็งแกร่งที่สุดก็มีเหงื่อเย็นเกิดขึ้นขณะฟังคำพูดเหล่านั้น


ในความเป็นจริงคำกล่าวของคุณชายหลางได้ถูกกล่าวมานานแล้วและถูกกล่าวเตือนโดยผู้อาวุโสในตระกูลของพวกเขาเอง พวกเขาทั้งหมดมีความเข้าใจในบทบาทอันยิ่งใหญ่ของตระกูลหยาง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าเล่นกลโกงใดๆ


"ครั้งก่อน มีคนฝังแก่นแท้พลังงานไว้ก่อน แต่ในท้ายที่สุด สำหรับการฝังหนึ่งแก่นแท้ หนึ่งคนก็ถูกฝัง...... "


"ถ้าพวกเจ้าไม่มีคำถามใดๆ เรามาเริ่มต้นกันเถอะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด!"


หลงเฉินเข้าใจแล้ว ภายใต้การควบคุมดูแลของคุณชายหลางนี้ เพื่อให้ได้แก่นแท้พลังงานมีอยู่สองวิธี หนึ่ง: สังหารสัตว์ปีศาจ สอง: รับมันมาจากอีกฝ่าย


เมื่อมาถึงจุดนี้ ไป่ชวี่ฉือและคนที่เหลือ เหลือบมองที่หลงเฉินอย่างเย็นชาและเข้าสู่ขุนเขาแห้งแล้งก่อน ส่วนหยางอู่และคนที่เหลือ พวกเขาก็รีบตามหลังไป แม้ว่าหยางหลิงฉิงไม่สามารถทำให้จิตใจของนางสงบใจได้เพราะหลงเฉิน แต่นางเตือนเขาและจากเขาไปในท้ายที่สุด


"เวลาแปดชั่วโมงยิ่งกว่าพอที่จะสังหารไป่ชวี่ฉือได้ และเมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะเอาแก่นแท้พลังงานจากเขาไป"


คิดถึงจุดนี้ หลงเฉินก็ต้องการเข้าสู่ขุนเขาแห้งแล้งด้วย อย่างไรก็ตามในขณะนี้ คุณชายหลางยืนตรงหน้าเขา จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่เจ้าตัดผ่านขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4 แล้วยังสามารถใช้ทักษะแก่นแท้สวรรค์ระดับเชี่ยวชาญได้ด้วยหรือ?"


หลงเฉินตกตะลึงอย่างแท้จริงในเวลานี้


คุณชายหลางผู้เรื่องลับแท้จริงแล้วได้รู้เรื่องของเขาเป็นอย่างดี แม้กระทั่งทักษะแก่นแท้สวรรค์?


ขณะที่หลงเฉินกำลังจะถามเขาก็กล่าวว่า "ข้าจะไม่ถ่วงเวลาของเจ้า เร็วเข้าและเข้าไป ข้ารู้สึกว่าสมาชิกของตระกูลไป่มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเจ้า เจ้าต้องระมัดระวังด้วย"


หลังจากกล่าวจบ ร่างของเขาก็เคลื่อนไหวและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้กระทั่งทิศทางของเขาก็ไม่อาจรู้ได้......


"เขารู้ว่าข้าเชี่ยวชาญทักษะแก่นแท้สวรรค์และเขาก็กังวลกับความเป็นความตายของฉันข้า เสียงและรูปร่างของเขาคล้ายกับคนบางคน ...... "


หลงเฉินก็นึกถึงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้ให้ทักษะแก่นแท้สวรรค์กับเขา และเขาเกือบจะร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผู้ที่ถูกเรียกว่าคุณชายหลางเป็นคนที่มีรูปลักษณ์งดงามสามารถชนะสตรีหลายคนได้ผู้นั้น รูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลเหล่านี้ทำให้หลงเฉินไม่แน่ใจเรื่องเพศของเขา!


"ในตอนนั้น ข้ารู้สึกว่าภูมิหลังของเขายิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตามข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็นสมาชิกของตระกูลหลิงหวู่จริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่เขามาที่ไป่เห๋อหยาง อาจจะเป็นไปได้ที่สุดว่ามันเป็นครั้งแรกที่เขาจะทัความเข้าใจพื้นหลังของทั้งสองตระกูลใหญ่ในเมืองไป่เห๋อหยาง อย่างไรก็ตามทักษะแก่นแท้สวรรค์ที่เขาให้ข้า ช่วยข้าได้อย่างมากและตอนนี้เขายังคงเตือนข้า ดูเหมือนว่าโชคชะตาของหลงเฉินจะไม่เลว... "


ขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน เขาก็เข้าสู่ขุนเขาแห้งแล้งและปิดบังรูปลักษณ์ของเขาไว้


"บรรดาผู้ที่ปฏิบัติอย่างดีกับข้า ข้าจะตอบแทน 100 เท่า หลิงซี หลิงฉิง และคุณชายหลางได้ให้การดูแลข้าอย่างดีโดยไม่มีเงื่อนไขอ  ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเสียใจ! "


ด้วยความสามารถของตัวเขา ตอนนี้หลงเฉินกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว


"ด้วยหลิงซีอยู่รอบๆ การหาไป่ชวี่ฉือเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าที่เขาจะหาข้าพบ โอ้ ดี ข้าจะปล่อยพวกเขาไปก่อนและค่อยชิงแก่นแท้พลังงานปีศาจจากพวกเขา และหลังจากเดินเล่นที่ขุนเขาแห้งแล้งแล้ว ข้าก็จะเรียกร้องชีวิตของพวกเขา "


ด้วยความสัมผัสที่แข็งแกร่งของหลิงซี ถ้าหลงเฉินได้พบกับกลุ่มสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายเขาสามารถเดินเลี่ยงไปได้ทุกทาง เขาค่อยๆเดินเข้าไปในขุนเขาแห้งแล้งและป่าโดยรอบได้ค่อยๆสูงขึ้น บรรยากาศเริ่มหนาวเย็นอย่างช้าๆ


"ส่วนที่ลึกที่สุดของขุนเขาแห้งแล้งจะเป็นดินแดนสัตว์อสูรรกร้าง ครั้งก่อน ข้าเข้าไปทิศทางอื่นเพื่อเข้าสู่ดินแดนสัตว์อสูรรกร้าง นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าไม่เคยผ่านขุนเขาแห้งแล้ง...... "


"อย่างไรก็ตาม พื้นที่แห้งแล้งค่อยๆให้ความรู้สึกว่าแข็งแกร่งมากขึ้น ข้าคิดว่าเราเกือบจะอยู่ในดินแดนสัตว์อสูรรกร้าง...... "


เมื่อมาถึงจุดนี้ หลิงซีก็กล่าวว่า "นี่ ข้างหน้าดูเหมือนว่าจะมีคนอยู่ข้างในถ้ำที่ปกปิด"


หลงเฉินตะลึงในเวลาเพียงชั่วขณะและกล่าวว่า "นั่นเป็นคุณชายหลาง?"


"ไม่เป็นคนที่อยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9 และดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นหอมหวานออกมาจากที่นั่น ข้าคาดว่าเขาต้องคอยเฝ้าต้นยาจิตวิญญาณที่ยังไม่สุก!






ความคิดเห็น