DBWG บทที่ 2 : หลงเฉิน
DBWG บทที่ 2 : หลงเฉิน
หลังจากที่ใช้พลังงานไปเป็นจำนวนมาก หยางเฉินก็สามารถจัดการเคลื่อนย้ายให้บิดาเขามาพิงกับต้นไม้ได้
"ตาแก่นี่ แกล้งตายมาตลอด!"
หลังจากสังเกตมาได้สักพัก หยางเฉินพบว่าหลงชิ่งหลานไม่ได้มีปัญหาใดๆเลย ทำให้เขารู้สึกโกรธมากจนถึงจุดที่เขาต้องการจะชกหน้าบิดาของเขา
หลงชิ่งหลานจ้องมองเขาและกล่าว "อย่าคิดว่าข้าจะรอดชีวิตได้ ตอนนี้ข้าฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา เหตุผลหลักคือการมอบความรับผิดชอบให้กับเจ้าเรื่องหนึ่ง เจ้าควรจะฟังข้ากล่าวอย่างระมัดระวัง ถ้าเจ้าพลาดเรื่องนี้ ข้าจะกลายเป็นผีและทำให้เจ้าไม่สามารถสร้างทายาทได้ "
หยางเฉินกลอกตาไปมา ในอดีตเขาไม่เคยได้ยินผู้ชายคนนี้พูด เขาไม่เคยคาดคิดว่าเสียงพูดของพวกเขาจะคล้ายกัน มันคงเป็นไปตามกรรมพันธุ์
"เอาล่ะ ข้ารู้แล้วว่าไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติกับท่าน ข้าเห็นแล้วว่าท่านกลับมาปกติดี ท่านพ่อ เพียงแค่กล่าวในสิ่งที่ท่านต้องการออกมา"
หลงชิ่งหลานหัวเราะอย่างหนักใจและกล่าว "ข้าได้เจอเจ้าสองสามครั้งในอดีต เจ้าสารเลวน้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้ามีลักษณะนิสัยเหมือนข้าตอนที่ข้ายังเยาว์ ดังนั้นข้าจะพูดสั้นๆ หลังจากที่ข้าตาย สิ่งแรกที่เจ้าต้องทำคือเอาจี้หยกรูปมังกรออกมาจากตันเถียนของข้า"
หลังจากได้ยินเกี่ยวกับจี้หยกรูปมังกรอีกครั้ง หยางเฉินก็จ้องมองและกล่าวว่า
"ท่านพ่อ..ท่านคิดว่าข้าเป็นคนโง่เง่าหรือ? ถ้ามีจี้หยกเป็นชิ้นอยู่ในตันเถียนของท่าน ท่านจะมีชีวิตสมบูรณ์ดีได้อย่างไรจนถึงตอนนี้?"
"ข้าไม่สน! เจ้าเรียกว่าสมบูรณ์ดีได้อย่างไร? เมื่อข้าอายุ 18 ปีและมาที่เมืองไป่เห๋อหยาง แม่ของเจ้าเท่านั้นที่สามารถเป็นคู่แข่งข้าได้ในรุ่นของนาง ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้น ข้าจะได้ชื่นชมความงามของแม่เจ้าบนเตียงได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ข้าได้หยกนี้มา ปราณฉีชีพจรมังกรขั้นที่ 8 ของข้า ภายในครึ่งปี มันถูกดูดซับไปทั้งหมด และนับตั้งแต่นั้นมาข้าก็ถูกตราหน้าว่าเป็นเศษขยะที่ไร้ประโยชน์!"
ดังนั้นกับความจริงของเรื่องราวดังกล่าว หยางเฉินด้วยความสัตย์จริง เขาไม่รู้อะไรเลย จากที่เห็นคำพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของชายชรา ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหยกมังกรนี้สามารถที่จะทำให้ปราณฉีหายไป?
และที่สำคัญกว่านั้น ตาแกนี่เคยเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่8 ? ถ้าบิดาของเขาประสบความสำเร็จดังกล่าวในช่วงที่เขาอายุน้อยเพียงเท่านั้น อนาคตของเขาจะเป็นเช่นไร?
ตามตำนาน เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้สืบทอดสายเลือดของเทพมังกรโบราณเป็นสาเหตุให้ท่อโลหิตหลักทั้งเก้าในร่างกายมนุษย์ ถูกกล่าวขานว่าเป็น 'เส้นโลหิตมังกร' เมื่อร่างกายมีอารมณ์ถึงขีดสุด รู้สึกได้ถึงทั้งสวรรค์และโลก ดูดซับแก่นแท้โดยรอบแล้วสามารถเก็บสะสมไว้ในปราณฉี เมื่อปราณฉีไหลผ่านเส้นโลหิตมังกรทั้งเก้าแล้ว จะสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดได้ เนื่องจากขอบเขตชีพจรมังกรมี 9 ระดับ (1 ระดับต่อ 1 เส้นโลหิตมังกร)
(TL: ขอบเขตชีพจรมังกรเป็นเพียงอาณาจักรแรกและมีทั้งหมด 9 ระดับ)
จากความเข้าใจของหยางเฉิน ในหมู่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองไป่เห๋อหยาง ยังด้อยกว่าบิดาชราของเขา ประกาศตนว่าเป็นผู้ไร้เปรียบ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรที่มากไปกว่าเชี่้ยวชาญขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9
ไม่สนใจการแสดงออกอย่างสงสัยของหยางเฉิน หลงชิ่งหลานกล่าวต่ออย่างจริงจัง "อย่างแรก ข้าได้อธิบายอย่างชัดเจนต่อเจ้าแล้ว อย่างที่สองคือ.. เปลี่ยนแซ่ของเจ้า ตั้งแต่วันนี้ ไป ชื่อของเจ้าคือ 'หลงเฉิน' ตระกูลหลงของเราเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากที่เป็นลูกหลานของพวกเขา เราไม่สามารถใช้แซ่ของตระกูลอื่นได้"
(TL: 龙 หลง =มังกร)
"ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่? อย่ามาเกลี้ยกล่อมข้าด้วยวิธีเด็กๆ.... โอ้ ดี ถ้าข้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแซ่ของข้าเป็น'หลง'เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร"
หยางเฉินพ่นออกมาไม่กี่วินาทีจากนั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าปีศาจชราจะเล่นตลกกับเขา แต่อย่างไรก็ตาม เข้าก็ไม่อยากมีแซ่'หยาง'อีกต่อไป ถึงแม้ว่าบิดาของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆ แต่เขาก็ยังสามารถใช้แซ่'หลง'ได้
'หลงเฉิน' นี่เป็นชื่อใหม่ของเขา
เขาพูดชื่อเขาหลายครั้ง และมีความรู้สึกยินดี มองไปที่ปีศาจชราที่แสดงรอยยิ้มจากใจ หลงเฉินรู้สึกว่าวันนี้เขามีความสุขมาก
เขานั่งลงข้างหลงชิ่งหลานและไหล่ของเขาพิงกัน
"เจ้าเป็นลูกชายของข้า เรียกเจ้าว่า'เฉินเอ๋อร์'คงไม่มากเกินไป ข้าตื่นเต้นมากกับอุปสรรคตลอดชีวิตของข้า เดินทางไปทั่วทวีปหลงชี่ทั้งหมด แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะตายในเมืองไป่เห๋อหยาง สถานที่สำหรับสุนัขนรกนั่น โชคชะตาเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาจริงๆ มันทำให้คนรู้สึกเหมือนจะร้องไห้"
"สมองของท่านผิดปกติในวันนี้หรืออย่างไร การกระทำชั่วร้ายทั้งชีวิตของท่าน ข้ารู้จักท่านดี อย่ามาโอ้อวดต่อหน้าข้า! โอ้ ใช่ อย่ากลับไปที่ตระกูลหยางจะดีกว่า ด้วยความสามารถของข้า แม้กระทั่งในสถานที่อี่น การช่วยเหลือคนขี้เหล้าเมายาเช่นท่าน ก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้มากมายนัก แบบนี้เป็นอย่างไร? "
ขณะที่หลงเฉินพูด เขามองไปยังทัศนียภาพอันกว้างไกล รอคำตอบจากบิดา แต่หลังจากนั้นสักพักก็ไม่มีปฏิกิริยา เขารู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาและหันกลับไปมองทันที เพียงเห็นดวงตาของหลงชิ่งหลานเต็มไปด้วยหยดน้ำตา แต่เขาไม่ขยับแม้แต่น้อย
"ตาแก่ปีศาจ เกิดอันใดขึ้นกับท่าน..."
ถูกมองในลักษณะดังกล่าวโดยชายคนหนึ่ง หลงเฉินไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจเลยสักนิดเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะปากเสีย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชายที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นบิดาของเขาเอง
"เฉินเอ๋อร์..."
"....ขอรับ?"
หลงชิ่งหลานเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า "ข้าไม่ใช่พ่อที่ดี และข้าไม่ได้มีความรับผิดชอบใดๆที่พ่อควรมี ดังนั้นเจ้าอาจจะเดินไปในเส้นทางที่ผิดๆได้ มีหลายสิ่งที่เจ้าต้องเผชิญ ตอนนี้ข้าไม่ต้องการที่จะบอกอะไรเจ้า แต่เมื่อเจ้าไปถึงระดับนั้นแล้วเจ้าจะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง"
"และสิ่งสุดท้ายที่ข้าต้องการจะบอกเจ้าในชีวิตนี้ ทำความสะอาดหูของเจ้าให้ดีและมาฟังใกล้ๆ นั่นคือ ในโลกที่โหดร้ายนี้ความแข็งแกร่งคือทุกอย่าง คนที่ไร้พลังจะเปรียบได้กับสุนัข!"
"หลังจากการตายของข้า ข้าต้องการให้เจ้ากลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง กำหนดมันเป็นเป้าหมายในชีวิตของเจ้า เพราะสิ่งนั้นเองสุดท้ายก็เป็นเป้าหมายของข้าเช่นกัน แต่โชคชะตาช่างเล่นตลกกับข้ายิ่งนัก.... "
หลังจากที่ได้รับมอบหมายงานดังกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง หลงเฉินถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในความงุนงง
หลงชิ่งหลานลูบศรีษะของเขาเบาๆ จับไหล่ของหลงเฉิน และยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกล่าวว่า "ข้าได้พูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว และสุดท้ายข้าก็ต้องการมอบความรับผิดชอบให้กับเจ้าอีก เร็วๆนี้จะมีการแข่งขันของตระกูลหยาง เด็กรุ่นเยาว์จะแข่งขันกัน ผู้ชนะคนสุดท้ายจะได้รับทักษะการต่อสู้สูงสุดของตระกูลหยาง[ตราประทับมังกร] ทักษะตราประทับมังกรนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เจ้ากลายเป็นนักรบมังกร ดังนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม เจ้าต้องได้มันมาอยู่ในมือ ห้ามลืมมัน ห้ามลืมมันเด็ดขาด... "
การแข่งขันในตระกูล หลงเฉินเคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา
"ด้วยความสามารถของข้า ข้าสามารถเอาชนะอันธพาลทั่วไปได้โดยไม่มีปัญหา แต่สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ข้ามีแต่จะทำให้ท่านเสียหน้าเท่านั้น และตาแก่ ท่านพูดถึงนักรบมังกรอะไร?"
"นักรบมังกร.. นั่นเป็นตำนานอันยาวนานของทวีปหลงชี่...."
หลังจากกล่าวจบประโยคนี้ ใบหน้าของหลงชิ่งหลานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโหยหา อย่างไรก็ตาม มือที่วางบนไหล่ของหลงเฉินค่อยๆลดลง และหยุดหายใจ..
หลงเฉินกำลังถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทวีปหลงชี่ แต่เมื่อได้เห็นมือของหลงชิ่งหลานตกลงไป หัวใจของเขาตื่นตระหนกและรีบประคองหลงชิ่งหลาน
แม้ว่าดวงตาของเขายังเปิดอยู่ แต่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลงเฉินพบว่า บิดาของเขาจากไปแล้ว ครั้งนี้เขาตายอย่างแท้จริง
หลงเฉินรู้สึกว่าใจเขาแตกสลาย
เมื่อวันก่อนที่หลงชิ่งหลานตาย เขาอาจจะยอมรับได้ แต่ตอนนี้เมื่อเขาปรารถนาที่จะเดินทางไปกับตาแก่ปีศาจ ไปยังสถานที่ห่างไกลและมีชีวิตที่สุขสบายและเป็นอิสระ เขาก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพียงคนเดียว...
หลงเฉินโค้งคำนับด้วยความโศกเศร้า
"เจ้าควรจะฟังข้าอย่างระมัดระวัง ถ้าเจ้าพลาดเรื่องนี้ ข้าจะกลายเป็นผีและทำให้เจ้าไม่สามารถสร้างทายาทได้"
"ข้าไม่ใช่พ่อที่ดี และข้าไม่ได้มีความรับผิดชอบใดๆที่พ่อควรมี"
"ในโลกที่โหดร้ายนี้ ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง คนที่ไร้พลังเปรียบเหมือนสุนัข!"
"หลังจากการตายของข้า ข้าต้องการให้เจ้ากลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง กำหนดมันเป็นเป้าหมายในชีวิตของเจ้า"
คำพูดของเขา ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหูของหลงเฉิน
หลงเฉินไม่เคยคาดคิดว่า วันหนึ่งเขาจะได้สัมผัสกับความเจ็บปวดดังกล่าว ก่อนหน้านี้เข้าเสียสูญไปนาน แต่ความเจ็บปวดตอนนี้ มันมาจากที่ใดกัน?
หลังจากรอจนมืดมิด และมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว หลงเฉินก็ฝังเขาลงไปในหลุมฝังศพ
มองลงไปที่ใบหน้าซูบผอมในหลุมฝังศพ หลงเฉินกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ
"........"
"ตาแก่ปีศาจ จากทุกสิ่งที่ท่านได้บอกแก่ข้า ข้าจดจำทุกอย่างได้อย่างชัดเจนและจะทำตามนั้น บางสิ่งที่ท่านได้มอบหมายให้ข้ารับผิดชอบ แม้ว่าข้าจะพิการ ข้าก็จะส่งพวกเขาออกไป สำหรับการเปลี่ยนแซ่ของข้า ข้าจะทำตามนั้น เรื่องของ[ตราประทับมังกร]ด้วย ข้าจะค่อยๆประสบความสำเร็จ กลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง แม้ไม่สามารถทำได้ภายในหนึ่งวัน และ..."
เขาจะทำตามคำขอของหลงชิ่งหลาน เอาจี้หยกรูปมังกรออกมาจากตันเถียนของบิดา
"เขาตายไปแล้ว ถ้าข้าทำลายศพเขา นี่อาจจะเป็นความผิดร้ายแรง..."
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาต้องการที่จะยอมแพ้ แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนความคิดของเขาทันที
"ไม่ มันไม่ถูก ตาแก่ปีศาจบอกว่าหยกมังกรกำลังทรมาณเขาอยู่ แล้วเข้าก็บอกข้าซ้ำๆ หยกนี่มีความลับบางอย่าง"
หลงเฉินมิได้เป็นคนอารมณ์อ่อนไหว และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาหยิบกริชขึ้นมา เหลือบมองหลงชิ่งหลานอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าลึก และทะลวงตันเถียนของเขา
แน่นอนว่า มีจี้หยกสีดำปรากฏออกมา
หลงเฉินวางจี้หยกลงบนพื้น แล้วฝังร่างของหลงชิ่งหลาน หลังจากตกอยู่ในความเศร้าได้สักพัก หลงเฉินก็นั่งลงไปด้านข้างแล้วมองจี้หยกสีดำบนมือ
นี่คือหยกมังกรที่หลงชิ่งหลานกล่าวถึง
"ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่ดูดซับปราณฉีของเขา และทำลายชีวิตของเขา?"
หยกมังกรลึกลับ กลับเป็นหยกรูปมังกรมีลวดลายแปลกๆมากมาย เป็นหยกที่มีสีดำทั้งหมด วัสดุที่ใช้ดูธรรมดา ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หลงชิ่งหลานทรมาณตลอดทั้งชีวิต
ยามนี้เป็นเวลาดึกดื่นมากแล้ว แสงจันทร์ส่องไสว กลุ่มหมอกเริ่มปรากฏ หยกมังกรในมือของหลงเฉินเริ่มเปล่งแสงและหายไปฉับพลัน สร้างความประหลาดใจและตกตะลึงให้กับหลงเฉิน
"เกิดอะไรขึ้น?"
ยังไม่ได้สติเต็มที่ หลงเฉินรู้สึกถึงเสียงคำรามที่ดังก้องอยู่ในหัวเขา และพบว่าจิตสำนึกของเขาปรากฏอยู่ท่ามกลางกลุ่มหมอกสีเทา หมอกกระจายตัวอย่างไม่หยุดยั้งและคลื่นลมก็ปรากฏ หลงเฉินเสียสูญไปชั่วขณะ และมองไปรอบๆด้วยความสับสน
"นี่เป็นไปตามที่ได้อธิบายไว้ในหนังสือ ว่าเป็นทะเลแห่งจิตสำนึกและปกปิดจิตวิญญาณ แต่เกิดขึ้นเพียงตอนที่เขากลายเป็นนักรบ และเปิดจิตใจ เขาจึงจะได้เห็นทะเล ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คืออะไร?"
เขารู้สึกตกใจอย่างมาก หลงเฉินเดินไปในทะเลแห่งจิตสำนึกนี้อย่างต่อเนื่อง แต่เขารู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะวิ่งไปตลอดกาล แต่ก็ไม่สามารถที่จะหนีจากทะเลหมอกแห่งนี้ได้ ในตอนนี้ หลงเฉินเห็นชิ้นส่วนโบราณสีดำของหยกรูปมังกรปรากฏขึ้น
ดวงตาของหลงเฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ
"สำหรับหยกมังกรนี้ ที่ปรากฏในจิตสำนึกของข้า มันจะดูดซับแก่นแท้พลังฉีของข้า?"
หลงเฉินตกใจมาก
"ไม่หรอก โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้ ข้าไม่มีพลังฉีใดๆ มันจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อดูดซับผายลมของข้าใช่หรือไม่?"
ในขณะนั้นเอง พลังอันรุนแรงได้ออกมาจากหยกมังกร และตัดผ่านขอบเขตระหว่างเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ
ความร้อนแรงของพลังที่กักเก็บไว้ในร่างกาย ทำให้ร่างกายของหลงเฉินรู้สึกสดชื่นขึ้น

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น