DBWG บทที่ 46 : ดาบแก้วลวงตา
DBWG บทที่ 46 : ดาบแก้วลวงตา
เมื่อหลงเฉินกลับมาอีกครั้ง ผู้ก่อตั้งหยางก็เผยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย เขาตระหนักว่าคุณชายหลางดูเหมือนเพียงแค่ชื่นชมความสามารถของหลงเฉินเท่านั้น
สมาชิกตระกูลไป่ถอนหายใจหนักหน่วงด้วยความโล่งอก ถ้าหลงเฉินตามคุณชายหลางกลับไปที่เมืองหยวนหลิง แม้ว่าพวกเขาจะสามารถกำจัดสมาชิกตระกูลหยางได้ แต่พวกเขาก็ยังคงกลัวว่าหลงเฉินจะประสบความสำเร็จอย่างมากในเมืองหยวนหลิง และกลับมาแก้แค้นพวกเขา
"แม้แต่บุคคลที่มีความสามารถเช่นเขาก็ไม่ได้รับการยอมรับเข้าสู่สมาชิกตระกูลหลิงหวู่ เราก็จะเห็นได้ว่ามาตรฐานของที่นั่นสูงเพียงใด สำหรับข้อกำหนดในการเข้าสู่ตระกูลหลิงหวู่!
เมื่อมาถึงจุดนี้ผู้ก่อตั้งหยางได้รวมตัวกันกับสมาชิกในตระกูลหยางทั้งหมด ตอนนี้ผู้ก่อตั้งหยางได้กลายเป็นเจ้าเมืองของเมืองไป่เห๋อหยาง กลุ่มต่างๆได้รวมตัวกันอย่างรีบเร่งอยู่รอบด้านเป็นจำนวนมาก ขณะที่สมาชิกตระกูลไป่มีจำนวนค่อนข้างเบาบาง
"เฉินเอ๋อร์ คุณชายหลางอยู่ที่ใด?"
"เขาได้กลับไปที่เมืองหยวนหลิงแล้ว"
เมื่อได้ยินว่าคุณชายหลางได้จากไปแล้ว ฝูงชนก็แสดงความยินดีกับผู้ก่อตั้งหยางและจากไป
คนนับหมื่นกำลังเตรียมพร้อมที่จะออกจากลานจัตุรัสแห่งนี้ แต่ในขณะนี้สมาชิกตระกูลไป่ก็เดินไปที่ที่สมาชิกตระกูลหยางอยู่ ผู้นำกลุ่มมาคือไป่เฉิงและไป่หลี่ พวกเขาจับจ้องผู้ก่อตั้งหยางและหลงเฉินอย่างเยือกเย็น และดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ
เมื่อมองไปที่สมาชิกตระกูลไป่ซึ่งเป็นคนหน้าซื่อใจคดแล้วก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อรบกวน
เมื่อมาถึงจุดนี้เมื่อพวกเขาได้เข้ามาใกล้ ๆ หลงเฉินรู้สึกได้ชัดเจนมากกว่าเดิมถึงความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนขอเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9
เมื่ออยู่ห่างจากตระกูลหยางเพียงเล็กน้อย ตระกูลไป่ก็หยุดเดิน
ไป่เฉิงและไป่หลี่ ทั้งสองมีการแสดงออกที่มืดครึ้ม เมื่อมาถึงจุดนี้พวกเขาได้เผชิญหน้ากับผู้ก่อตั้งหยาง ผู้ซึ่งไม่กลัวแม้จะเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญทั้งสอง
เมื่อถึงจุดนี้ไป่เฉิงเยาะเย้ยและกล่าว "ตระกูลหยาง? เจ้าเมือง? เป็นเรื่องที่ไร้สาระยิ่งนัก"
ผู้ก่อตั้งหยางไม่สามารถจะกล่าวกับเขาได้ อย่างไรก็ตาม หลงเฉินรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับรูปลักษณ์การแสดงออกของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงยิ้มและโต้กลับไป "พวกท่านสุนัขตัวน้อยของตระกูลไป่กระดิกหางไปมาเมื่อคุณชายหลางอยู่ที่นี่ หลังจากที่เขาจากไป พวกท่านต้องการแว้งกัด? "
พฤติกรรมของสองผู้เชี่ยวชาญตระกูลไป่ ได้รับการอธิบายอย่างสวยงามโดยหลงเฉิน และคนอื่นๆทั้งหมดหัวเราะชั่วขณะ หลังจากที่ได้รับความอัปยศต่อหน้าสาธารณะชนโดยหลงเฉินแล้ว ใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนกลับกลายเป็นน่าเกลียด
พวกเขามองตากัน แล้วไป่ลี่มองไปทางหลงเฉินและกล่าวว่า "สารเลวปากดีที่คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ แต่ไม่เคยรู้ถึงความแตกต่างจากอัจฉริยะที่แท้จริงซึ่งอยู่ไกลออกไป 180,000 ไมล์ คุณชายหลางไม่ได้พาเจ้าไปซึ่งเป็นความโชคร้ายของเจ้า ในแปดวันหลังจากนี้ ข้าสามารถทำนายได้ว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแปดวันเท่านั้น"
เมื่อเขากล่าวถึงเลขแปด เขาก็แสยะยิ้ม
หลงเฉินรู้ดีว่าเขากำลังพูดถึงการต่อสู้แย่งชิงผลกระจายวิญญาณ
อย่างไรก็ตามเขายังคงไม่ใส่ใจและว่า: คำพูดของสุนัขตัวน้อยตระกูลไป่นี้ ในฐานะมนุษย์แล้ว ข้าเป็นธรรมดาที่จะฟังไม่เข้าใจ"
ใบหน้าของไป่หลี่มืดครึ้มเต็มไปด้วยความลำบากใจและความโกรธ แต่ไป่เฉิงยับยั้งเขาและกระซิบว่า "พี่ชายสอง สารเลวนี่พูดได้ดี การทะเลาะกับเขาจะเพิ่มแต่ความโกรธให้ตัวเองและต่อไปอีกไม่นานก่อนที่ทั้งตระกูลหยางของพวกมันจะได้พินาศ เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้เช่นนี้กับพวกเขาที่นี่ในวันนี้ "
ไป่หลี่หัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "โอ้ ดี เราจะปล่อยให้พวกเขาพอใจตัวเองอีกสักสองสามวัน แล้วจากนั้น...... "
"โอ้ ใช่ พี่ชายสอง พี่น้องของท่านจากนิกายโลหิตแดงศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้หรือไม่? เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ถ้าหากว่า...... "
"ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเป็นพี่น้องของข้า ข้าสามารถพึ่งพาเขาได้โดยง่ายและด้วยความสามารถของเขาในขอบเขตแดนเทวะ ตระกูลหยางไม่ว่าหยางคังฉงหรืออัจฉริยะปีศาจที่ถูกกล่าวขานกันนี้ ก็เหมือนตัวตลกในสายตาของเขา
ไป่เฉิงไม่ใส่ใจทั้งหยางคังฉงและหลเฉินในทันทีและจินตนาการว่าพวกเขาทั้งสองจะกลายเป็นซากศพในอนาคตอันใกล้นี้ เขาเย้ยหยันในใจและคิดว่า "ตอนนี้พวกเจ้ามีความสุขกันไปก่อน เมื่อถึงเวลาแล้วเจ้าจะเห็นสมาชิกทุกคนในตระกูลของเจ้าที่กำลังจะตาย เจ้าจะเสียใจที่ได้เกิดมาในโลกนี้"
เมื่อเห็นว่าทั้งสองตระกูลกำลังจะต่อสู้กัน จิตใจของคนทั้งหมดเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก แต่หลังจากที่สมาชิกในตระกูลไป่ได้กล่าวเพียงไม่กี่คำแล้วเดินไปกับพร้อมกับหางระหว่างขาของพวกเขา ฝูงชนทุกคนได้หัวเราะ เพราะประสิทธิภาพของตระกูลหยางนี้น่าสมเพขเกินไป
นอกจากหลงเฉินที่ขมวดคิ้ว เขามีลางสังหรณ์ว่าการต่อสู้แย่งชิงผลกระจายวิญญาณจะสร้างความเสียหายร้ายแรงมากและถ้าหากไม่ระวังทั้งตระกูลหยางอาจจะถูกประณามสาปแช่งไปชั่วนิรันดร์!
ถ้าเป็นเวลาสองเดือนก่อนหน้านี้ หลงเฉินจะไม่ห่วงเรื่องตระกูลหยางมากนักหากมีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เมื่อเขามีคนที่เขาต้องการปกป้องอยู่ที่นี่ ความเป็นและความตายของตระกูลหยางก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ชะตาชีวิตของเขา
"ดังนั้น...ตระกูลไป่ ต่อเมื่อพวกเจ้าได้ถูกกำจัดให้สิ้นซากแล้วเท่านั้น ข้าจึงสามารถอยู่อย่างสงบได้"
กลับมาถึงตระกูลหยาง ผู้ก่อตั้งหยางรวบรวมทุกคนอีกครั้ง เหตุผลแรกคือการจัดระเบียนขั้นตอนในตำแหน่งเจ้าเมือง และอีกเหตุผลเกี่ยวกับรางวัล
เมื่อมาถึงจุดนี้ ผู้ก่อตั้งหยางได้กักตัว หยางฉิงซวน หยางเสวี่ยฉิง หยางหยุนเทียน หยางอู่และหลเฉินไว้ เขาหยิบกระเป๋าจักรวาลและกล่าวว่า "นี่เป็นรางวัลจากจระกูลหลิงหวู่ ข้าได้ตรวจสอบแล้ว มันถูกแบ่งออกเป็น 20,000 หยกจิตวิญญาณ หยกเทวะ 3 ชิ้นและยังมีดาบจิตวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูงพร้อมด้วยทักษะดาบระดับปฐพีขั้นสูงอีกด้วย
ในขณะที่เขากล่าว ผู้ก่อตั้งหยางได้แสดงออกถึงความปิติยินดี
โดยไม่ต้องกล่าวถึงหยกจิตวิญญาณ 20,000 ชิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับความมั่งคั่งทั้งหมดของตระกูลหยาง ยังมีหยกเทวะซึ่งเป็นรูปแบบการก่อตัวรวมกันของหยกจิตวิญญาณนับไม่ถ้วน โดยพื้นฐานแล้วพลังวิญญาณของหยกเทวะเหล่านี้มีค่าเทียบเท่ากับพลังงานที่มีอยู่ภายในหยกจิตวิญญาณจำนวน 10,000 ชิ้น! ขึ้นอยู่กับรางวัลเหล่านี้มันก็คล้ายกับ 50,000 หยกวิญญาณ
หยกเทวะมักจะมีเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตแดนเทวะเท่านั้นที่สามารถซื้อได้
หยกเทวะแต่ละชิ้นสามารถแลกกับหยกจิตวิญญาณ 10,000 ชิ้น แต่อาจจะไม่สามารถใช้หยกจิตวิญญาณ 10,000 ชิ้นแลกกับหยกเทวะ 1 ชิ้นได้ นี่เป็นเพราะหยกเทวะหาได้ยากอย่างมาก
ด้วยหยกเทวะทั้งสามชิ้นนี้ การบ่มเพาะของสมาชิกตระกูลหยางอาจเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อทุกคนได้ยินว่าพวกเขาได้รับหยกเทวะ 3 ชิ้น พวกเขาทั้งหมดตกใจ แต่ก็มีความสุข
นอกจากนี้เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกเขาได้รับดาบจิตวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูงพร้อมด้วยทักษะดาบระดับปฐพีขั้นสูงอีกด้วย การแสดงออกของพวกเขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น
สิ่งที่อยู่ในการครอบครองของพวกเขาตระกูลหยาง ที่เป็นระดับปฐพีขั้นสูงมีเพียงตราประทับมังกรเท่านั้น ขณะนี้ในด้านของความมั่งคั่งและทักษะ ทั้งคู่ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ควบคู่ไปกับดาบระดับปฐพีขั้นสูงก็ยิ่งน่าอัศจรรย์มากขึ้นเท่านั้น
มีเพียงไม่กี่แห่งในเมืองไป่เห๋อหยางที่มีดาบจิตวิญญาณ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงดาบจิตวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูง ด้วยดาบจิตวิญญาณนี้และทักษะระดับปฐพีขั้นสูง อาจทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้น!
เมื่อมาถึงจุดนี้ ผู้ก่อตั้งหยางหยิบเอาทักษะดาบออกมาและตามปกติเขาหยิบเอาดาบจิตวิญญาณออกมาในเวลาเดียวกัน มันราวกับว่ามันถูกเคลือบด้วยกระจกที่มีสีฟ้า กลิ่นอายได้เล็ดลอดออกมาจากดาบเล่มนี้ ซึ่งสร้างความรู้สึกแหลมคมมาก!
ความคมของใบดาบนี้สามารถตัดเส้นใยผมของเส้นผมได้เพียงแค่สัมผัสเล็กน้อย
"ดาบเล่มนี้มีชื่อว่าดาบแก้วลวงตา!"
สมาชิกในตระกูลหยางมองไปที่ดาบแก้วลวงตาเล่มนี้และทุกคนก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ เพราะดาบเล่มนี้มีคลื่นพลังงานมหาศาล ถ้ามันถูกนำมาใช้เพื่อต่อสู้ พลังของคนๆนั้นจะประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้น!
"ทักษะดาบระดับปฐพีขั้นสูงนี้มีชื่อว่า [ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาท]!"
เพียงแค่ใช้ชื่อนี้เท่านั้น จะรู้ว่ามันไม่ใช่ดาบง่ายๆ การคิดถึงเรื่องนี้ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาทจะไม่อ่อนแอเมื่อเทียบกับดัชนีกาฬสวรรค์หรือตราประทับมังกร และถ้าใช้ควบคู่ไปกับดาบแก้วลวงตานี้อาจจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น!
ผู้ก่อตั้งหยางมองไปที่ทุกคนและกล่าวว่า "วันนี้ข้าได้กักตัวพวกเจ้าไว้ เพราะข้าต้องการให้ทุกคนตัดสินใจโดยรวมว่าดาบแก้วลวงตาและทักษะฟันเจ็ดดาบหลอนประสาทควรเป็นของใคร ทักษะการฟันดาบ สามารถเรียนรู้ได้หลายๆคน แต่มีดาบแก้วลวงตาเพียงหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น......ยามนี้ข้าก็อายุมากแล้วและข้าได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเรียนรู้ทักษตราประทับมังกร ตอนนี้ข้าเพียงต้องการที่จะมุ่งเน้นในการตัดผ่านขอบเขตแดนเทวะ เช่นนั้นดาบแก้วลวงตานี้จะเป็นของเจ้า"
จากนั้นเขาก็มองไปที่หลงเฉินและกล่าวกับคนอื่นๆว่า "เฉินเอ๋อร์ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือตระกูลของเราอย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้นข้าจะส่งมอบดาบแก้วลวงตานี้ให้แก่เขา พวกเจ้าทุกคนว่าอย่างไร?"
การได้เห็นหลงเฉินได้รับดาบแก้วลวงตานี้เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดไว้เป็นธรรามา หยางฉิงซวนและคนอื่นๆก็พยักหน้าพร้อมกันทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลงเฉินกล่าวว่า "ท่านปู่ ตราประทับมังกรก็เพียงพอสำหรับข้าแล้วและข้ายังไม่ได้วางแผนที่จะเรียนรู้ทักษะดาบอีกต่อไป ทำไมท่านจึงไม่มอบดาบเล่มนี้ให้กับคนอื่น"
เหตุผลแรกที่หลงเฉินไม่ต้องการดาบแก้วลวงตาเป็นเพราะเขามีตราประทับมังกรที่มีระดับใกล้เคียงกัน อีกเหตุผลก็คือหลิงซี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดาบและด้วยนาง หลงเฉินจึงไม่ได้วางแผนที่จะเรียนรู้ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาท
สิ่งที่เขาต้องการคือทักษะที่แข็งแกร่งมากขึ้นและตระกูลหยางมีความจำเป็นต้องใช้ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาทมากกว่าเขา
เมื่อเห็นหลงเฉินพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ผู้ก่อตั้งหยางจึงคิดว่า แม้ว่าหลงเฉินจะได้เรียนรู้ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาท พลังของเขาอาจจะไม่มากกว่าตราประทับมังกรนัก ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า เขามองไปทางทุกคนและเมื่อถึงจุดนี้ หยางฉิงซวนยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า "ท่านพ่อ ข้าเป็นเช่นเดียวกับท่าน ตราประทับมังกรก็เกินพอแล้วที่จะเรียนรู้ ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาทนี้จะทำลายข้ามากกว่าส่งเสริม"
หยางเสวี่ยฉิงพยักหน้าของนางด้วย ตอนนี้มีเพียงหยางอู่และหยางหยุนเทียนที่ยังไม่ได้กล่าวสิ่งใด "ข้ายังไม่ถึงขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 8 และตราประทับมังกรข้าก็ยังไม่เชี่ยวชาญ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงฟันเจ็ดดาบหลอนประสาทนี้"
"ข้าอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับท่านอาสองและเราจะกล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อข้าสามารถใช้ตราประทับมังกรลึกล้ำขั้นสูงได้ในอนาคต"
เมื่อถึงจุดนี้ หลงเฉินก็กล่าวว่า "สองคนที่ยังไม่ได้เรียนรู้ทักษะตราประทับมังกรเป็นหลิงเยว่และหลิงฉิง และพวกนางทั้งสองอยู่ในชอบเขตชีพจรมังกร ฟันเจ็ดดาบหลอนประสาทนี้ลองให้พวกนางได้ฝึกฝนก่อนแล้วจึงดูว่าใครจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้แล้วค่อยส่งมอบดาบแก้วลวงตาให้กับหนึ่งในนั้น เป็นอย่างไร? "
สมาชิกในตระกูลหยางรู้ดีว่าหลงเฉินและหยางหลิงฉิงมีความใกล้ชิดกัน แต่หลงเฉินก็ไม่ลำเอียงต่อหยางหลิงเยว่และทำให้พวกนางได้รับสิทธิ์ในการครอบครองดาบแก้วลวงตา ด้วยความสามารถของพวกนาง นี้ถือได้ว่าเป็นเสมอภาคและยุติธรรม
ผู้ก่อตั้งหยางพยักหน้าและกล่าวว่า "เราจะทำเช่นนั้น สำหรับหยกวิญญาณและหยกเทวะ ข้าจะเก็บพวกมันไว้ก่อนและแจกจ่ายพวกเขาตามความสามารถ เฉินเอ๋อร์มีความสำเร็จบางอย่างในวันนี้ ดังนั้นข้าจะมอบหยกเทวะให้กับเขา"
เป็นธรรมดาที่สมาชิกที่อยู่ที่นี่จะไม่คัดค้าน
หลงเฉินไม่เคยเห็นหยกเทวะใดๆมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธมันและรับเอาหยกเทวะจากมือของผู้ก่อตั้งหยาง ชั่วอึดใจต่อมาพลังงานจิตวิญญาณหนาแน่นและเป็นธรรมชาติได้ทำร้ายจมูกของเขาและพร้อมด้วยประกายแสง หลงเฉินรู้สึกว่าร่างกายของเขาผ่อนคลาย
ผู้ก่อตั้งหยางหัวเราะแล้วกล่าวกับทุกคนว่า "ตอนนี้ตระกูลหยางได้กลายเป็นผู้ปกครองในเมืองไป่เห๋อหยาง ฉิงซวนและหยุนเทียนตามข้าไปเพื่อจัดการขั้นตอนเล็กๆน้อยๆ คนที่เหลือไปได้"
หยางเสวี่ยฉิงและหยางอู่พยักหน้า แต่เมื่อพวกเขากำลังจะออกไป หลงเฉินก็กล่าวว่า "รอก่อน"
พวกเขามองไปที่หลงเฉินซึ่งสูดลมหายใจลึกๆ และกล่าวว่า: "ท่านปู่ ท่านทราบหรือไม่ว่าผลกระจายวิญญาณคืออะไร?"
ได้ยินชื่อของผลกระจายวิญญาณ ร่างกายของผู้ก่อตั้งหยางก็สั่นอย่างฉับพลันและเขาก็ตื่นเต้นพร้อมกล่าวว่า "เจ้ารู้ตำแหน่งของผลกระจายวิญญาณ?"

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น