DBWG บทที่ 44 : ปีศาจจิ้งจอกหางแดง
DBWG บทที่ 44 : ปีศาจจิ้งจอกหางแดง
หลังจากการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจเมื่อวานนี้ ในวันนี้เป็นวันประกาศผลการเลือกเจ้าเมืองในเมืองไป๋เห๋อหยาง
พิธีใหญ่เช่นนี้จะจัดขึ้นต่อหน้าของกลุ่มต่างๆและตระกูลต่างๆที่มีอิทธิพล ดวงตะวันสาดประกายแสงแรก มีคนนับหมื่นคนมารวมตัวกันที่จัตุรัสของเมืองไป่เห๋อหยาง
คนเหล่านี้เป็นบุคคลทุกคนที่รู้จักกันดีในเมืองไป่เห๋อหยาง และพวกเขาก็รวมขุนนางผู้มีอิทธิพลทุกคนไว้ในรัศมีห้ากิโลเมตรจากเมืองไป่เห๋อหยาง
ตำแหน่งเจ้าเมืองของเมืองไป่เห๋อหยางถูกกำหนดโดยรุ่นเยาว์ของตระกูลไป่และตระกูลหยางในระหว่างการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจและจากนี้จะเห็นได้ว่าตระกูลหลิงหวู่แต่ล่ะคนในตระกูลต่างครอบครองความสามารถในระดับสูง
ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดทั้งสองตระกูลของเมืองไป่เห๋อหยางยังมาไม่ถึง แต่คนที่มาร่วมงานกำลังคุยเรื่องการสับสนวุ่นวายครั้งใหญ่เมื่อคืนนี้
เหตุการณ์นี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองไป่เห๋อหยางแล้ว
สองเรื่องที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างมากคือแผนการชั่วร้ายของตระกูลไป่และรุ่นเยาว์จากตระกูลหยางที่มีความสามารถในการต่อต้านสวรรค์ดังกล่าว
"พวกเจ้าไม่ได้เห็นมัน ดังนั้นเจ้าจะไม่รู้เรื่องเกราะป้องกันสีแดงโลหิตที่ปกคลุมร่างกายของเขาและความเดือยแหลมที่คมยิ่งกว่ากระบี่ของเจ้า ไป่จ้านซ่งไม่สามารถแม้แต่จะต้านแรงระเบิดพลังครั้งเดียวจากเขา ดัชนีกาฬสวรรค์ - เก้าวงโคจรวสันต์สีเหลือง ถูกบดขยี้โดยสิ้นเชิงด้วย ตราประทับมังกรลึกล้ำขั้นสูง ของตระกูลหยางและตอนนี้ทุกคนก็บอกว่าคนผู้นี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับ 3 ของเมืองไป่เห๋อหยางแล้ว"
"หนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงที่อายุ 16 ปี? เขาเป็นปีศาจจริงๆ เขาน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าหลงชิ่งหลาน"
"ทั้งสองคนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะจากตระกูลไป่เป็นดาที่จะดับแสงเมื่อเทียบกับอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ดังกล่าว...... "
"ทุกคนโปรดหยุดพูด ตระกูลไป่ได้มาถึงแล้ว "
เมื่อมาถึงจุดนี้ ฝูงชนแยกย้ายและอนุญาตเปิดเส้นทางเดินให้พวกเขา ผู้นำตระกูลไป่อยู่ในหน้าสุดด้วยการแสดงออกที่มืดมนขณะที่เดินเข้าไปในลานจัตุรัสกว้างใหญ่นี้
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของตระกูลไป่ที่ดูโหดร้ายมาก กลุ่มต่างๆจึงเงียบสงบเนื่องจากความหวาดกลัว อย่างไรก็ตามพวกเขาแอบนินทากันอยู่ด้านหลังของตระกูลไป่
หลังจากทั้งหมดทุกคนได้เทอดทูนวีรบุรุษผู้ชอบธรรม แต่สำหรับใครบางคนที่วางแผนจะสังหารน้องชายร่วมเป็นร่วมตายของตัวเอง พวกเขาเหล่านั้นก็ถูกกำหนดให้ทุกคนถูกรังเกียจ
เมื่อตระกูลไป่ได้มาถึงบรรยากาศของฝูงชนก็มืดมนมาก จากนั้นก็มีคนตะโกนอย่างฉับพลัน: "สมาชิกตระกูลหยาง อยู่ที่นี่!"
ฝูงชนแยกย้ายและเปิดทางเดินเพื่อต้อนรับพวกเขาเรียกหาผู้ก่อตั้งหยางและคนอื่นๆ ทุกคนต่างปิติยินดี แต่ผู้ก่อตั้งหยางและคนอื่นๆกลับมาแสดงความเสียใจและเมื่อมาถึงจุดนี้คนส่วนใหญ่ก็หันไปดูผู้มีความสามารถอัจฉริยะปีศาจที่ได้รับการกล่าวขาน เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ของเขา พวกเขาทุกคนได้ร้องอุทานและกล่าวชมเชยเขา
"เขาดูเหมือนจะอายุสิบหกปี แต่มีความสำเร็จดังกล่าว... "
"บุตรของข้าถึงขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4 เท่านั้น เขายังหยิ่งยโสเมื่อสองสามวันมานี้ ถ้าข้าปล่อยให้เขาเห็นเด็กหนุ่มคนนี้เขาก็จะรู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เสมอไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนก็ตาม อัจฉริยะที่แท้จริงควรมีลักษณะเช่นนี้ "
สมาชิกตระกูลไป่เมื่อพวกเขามาถึงฝูงชนต่างเงียบและไม่ส่งเสียงใดๆ แต่ทุกคนต่างก็ยกย่องและส่งเสียงร้องออกมาเมื่อสมาชิกตระกูลหยางมาถึง
ความรุ่งโรจน์ที่เริ่มต้นเช่นนี้ควรจะเป็นของตระกูลไป่ แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าตระกูลหยางจะแย่งชิงไปจากพวกเขา การแสดงออกของสมาชิกตระกูลไป่ก็มืดลงยิ่งกว่าเดิมราวกับว่าพวกเขาเปลี่ยนเป็นเหล็กหล่อ
ตระกูลไป่กลับกลายเป็นตระกูล 'สีดำ'
[TL : (เล่นคำ) ตระกูลหยางเป็นสีขาวและตระกูลไป่เป็นสีดำ หมายถึง ตรงกันข้ามทั้งหมด แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและการรับรู้ถึงสภาพโดยรอบของตระกูลไป่]
การจ้องมองในปัจจุบันของหลงเฉิน ได้มุ่งเน้นไปที่ตระกูลไป่ มีคนไม่มากจากตระกูลไป่ที่มาในวันนี้ มีเพียงไป่เฉิง ไป่จ้านหลงและอีกหนึ่งผู้อาวุโสซึ่งทำให้หลงเฉินสะดุ้ง เมื่อเห็นใบหน้าชัดๆ
"หือ ไม่ใช่ว่าเป็นตาเฒ่าที่คอยเฝ้าต้นผลกระจายวิญญาณหรอกหรือ?" หลิงซีถามอย่างสงสัย
หลงเฉินเพิ่งจะได้เห็นลักษณะของชายชราคนนี้เท่านั้น แต่เขาเชื่อว่าทั้งเขาและหลิงซีไม่น่าจะจำผิดคน
หลังจากมองรูปลักษณ์ของผู้อาวุโสอย่างตั้งใจ หลงเฉินตระหนักว่ามีจุดสีแดงระหว่างคิ้วของเขา
นอกจากนี้ ยังมีจุดสีแดงอยู่ระหว่างคิ้วของหลงเฉินแต่นั่นก็คือมรดกแก่นแท้โลหิตหนึ่งในพันหยด ที่อยู่ระหว่างคิ้วของเขาและได้กลายเป็นเครื่องหมายสีจางๆ ถ้าหากไม่พิจราณาอย่างใกล้ชิดก็จะยากที่จะสังเกตเห็น อย่างไรก็ตามจุดสีแดงบนใบหน้าของชายชราคนนี้ถูกวาดด้วยหมึกพิเศษบางอย่างและโดดเด่นอย่างมากแม้ภายใต้แสงแดด!
หลงเฉินเคยเห็นว่าไป่จ้านซ่งใช้สตรีจากเรือนหยดเขียวมรกต เพื่อทำข้อตกลงกับกลุ่มคนที่มีจุดสีแดงระหว่างคิ้วของพวกเขา คนเหล่านั้นมีจุดสีแดงระหว่างคิ้วของพวกเขาซึ่งเหมือนกับชายชราคนนี้!
เมื่อคืน หลงเฉินได้ยินไป่จ้านซ่งกล่าวถึงลุงสอง และนิกายโลหิตแดงศักดิ์สิทธิ์ ชายชราคนนี้มีลักษณะคล้ายกันกับผู้นำตระกูลไป่ ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นคนที่ถูกเรียกว่าลุงสอง นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เฝ้าต้นผลกระจายวิญญาณ.....
หลังจากที่เชื่อมโยงเหตุการณ์แล้ว หลงเฉินก็มีความเข้าใจมากขึ้น
"ก่อนที่ผลกระจายวิญญาณจะสุกมันจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ในเวลานั้นจะมีการต่อสู้เพื่อเก็บผลกระจายวิญญาณ ผลไม้นี้จะมีความสำคัญอย่างมากต่อทั้งตระกูลหยางและตระกูลไป่ ตระกูลไป่กลัวว่าท่านปู่จะสามารถชิงผลกระจายวิญญาณได้ หรือไม่ก็กลัวข่าวที่ตระกูลไป่มีผลกระจายวิญญาณจะแพร่กระจายออกไป ดังนั้นเมื่อคืนพวกเขาจึงได้วางแผนที่จะกำจัดตระกูลหยาง"
ก่อนหน้านี้หลงเฉินยังคงคิดถึงการเคลื่อนไหวของตระกูลไป่เนื่องจากตำแหน่งของเจ้าเมือง แต่คำอธิบายค่อนข้างไม่น่าเชื่อ วันนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจความจริงเบื้องหลังเรื่องนี้
ในขณะนี้ชายชรามองไปที่หลงเฉิน หลังจากที่ผู้นำตระกูลไป่ชี้ไปที่ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ ชายชราดูแปลกใจราวกับว่าเขานึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้ และเขาส่งประกายเย็นชาไปที่หลงเฉิน
หลงเฉินรู้ว่าชายชราสามารถจดจำเขาได้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่ค้นพบผลกระจายวิญญาณเมื่อวานนี้ หลังจากหลงเฉินรู้เกี่ยวกับผลกระจายวิญญาณ เขาก็จะบอกตระกูลหยางด้วยว่าการจ้องมองจากชายชรานั้นเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร!
ชายชราลดเสียงของตัวเองและกระซิบกับผู้นำตระกูลไป่และท่าทางของไป่เฉิงเปลี่ยนไปในทันที!
พวกเขาไม่เคยคาดเดาว่าหลงเฉินจะได้พบกับผลกระจายวิญญาณในระหว่างการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจ ตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับผลไม้นี้น่าจะรู้ถึงหูตระกูลหยางแล้ว!
หลังจากค้นพบผลกระจายวิญญาณ พวกเขาได้ตัดสินใจที่จะทำลายล้างตระกูลหยางซึ่งเป็นอุปสรรคต่อพวกเขา แต่พวกเขามองข้ามความเป็นไปได้ที่หลงเฉินจะค้นพบผลกระจายวิญญาณโดยไม่คาดคิดและบอกกล่าวเกี่ยวกับผลกระจายวิญญาณแก่ตระกูลหยาง!
ด้วยวิธีนี้ผลกระจายวิญญาณที่พวกเขาจะได้รับอย่างแน่นอนอาจพบกับอุปสรรคที่ไม่คาดคิดบางอย่างและสิ่งนี้ทำให้พี่น้องตระกูลไป่เกลียดชังหลงเฉินมาก!
ปัจจุบันผู้ก่อตั้งหยางได้สังเกตเห็นชายชราแล้ว เขาขุ่นเคืองทันทีก่อนที่จะกล่าวว่า: "ไม่ดีแน่ คนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของไป่เฉิง และเป็นที่รู้จักกันในชื่อไป่หลี่ เขาเคยอยู่ที่เมืองหยวนหลิงและไม่ค่อยติดต่อกับไป่เฉิงมากนัก อย่างไรก็ตามข้าไม่คาดคิดว่าเขาจะมาเมืองไป่เห๋อหยางในเวลานี้...... สองผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 9..... "
เขายังคงสามารถจัดการกับไป่เฉิงได้ แต่ผู้ก่อตั้งหยางยังไม่มีความเชื่อมั่นใดๆเลยถ้าเผชิญกับไป่หลี่ซึ่งมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตามเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในขณะที่เขาจำได้ว่าเขายังคงมีผู้มากความสามารถ อัจฉริยะปีศาจหลงเฉินอยู่เคียงข้างเขา
เขาไม่แน่ใจถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลงเฉินแต่เขาคิดว่าถ้าหลงเฉินสามารถเอาชนะไป่จ้านซ่งแลำนำเขาไปสู่ความตายได้ หลงเฉินก็อาจจะสามารถต้านทานไป่หลี่ได้เช่นกัน!
ผู้ก่อตั้งหยางยังไม่ทราบเรื่องของผลกระจายวิญญาณและเป็นธรรมดาที่เขาไม่รู้ถึงความหมายที่ปรากฏอยู่เบื้องหลังไป่หลี่ เขาไม่รู้ว่าทำไมตระกูลไป่จึงพยายามจะต่อต้านตระกูลหยางด้วย
อย่างไรก็ตาม คิ้วของหลงเฉินขมวด ธรรมดาตระกูลไป่จะไม่กล้าสร้างความสับสนวุ่นวายกับคุณชายหลางในวันนี้ แต่หลงเฉินรู้ว่าพวกเขาจะต้องได้เผชิญกับไป่เฉิงและไป่หลี่ในสมรภูมิแย่งชิงผลกระจายวิญญาณแน่นอน!
หลงเฉินมีความมั่นใจในการจัดการกับสองคนนี้ แต่ ไป่จ้านซ่งกล่าวถึงนิกายโลหิตแดงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
สำหรับคุณชายหลางผู้มีความแข็งแกร่งมากเช่นนี้ในวัยเยาว์ก็เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของผู้เชี่ยวชาญในเมืองหยวนหลิงนั้นสูงกว่าของเมืองไป่เห๋อหยางมาก ถ้าไป่หลี่อาศัยอยู่ที่เมืองหยวนหลิงเขาก็น่าจะรู้จักผู้เชี่ยวชาญหลายคน ถ้าพวกเขาเหล่านั้นจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงผลกระจายวิญญาณ แล้วตระกูลหยาง....
หลงเฉินผู้ซึ่งคิดว่าเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้นก็รู้สึกกดดันอีกครั้ง
เขารู้ว่าหลังจากผลกระจายวิญญาณสุกจะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่และวิธีการของตระกูลไป่นั้นไร้ข้อบกพร่อง ส่วนในหลงเฉินที่อยู่ในตระกูลหยางนั้นมีคนจำนวนมากผู้ซึ่งสมควรได้รับความคุ้มครองและสร้างผลกระทบมากมายหากพวกเขาต้องตายเมื่อเผชิญกับตระกูลไป่ หลงเฉินรู้ว่าความสามารถในปัจจุบันของเขายังไม่เพียงพอ ถ้าเขาต้องการปกป้องผู้คนจำนวนมาก
สำหรับเรื่องหยางเสวี่ยฉิงหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ หลงเฉินจะไม่อนุญาตให้ใครทำร้ายนางได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยกโทษให้นางก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หลงเฉินได้สังหารสมาชิกของตระกูลไป่จำนวนมาก ตระกูลไป่จะไม่สามารถยกโทษให้ตระกูลหยางได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันมันเป็นภาระหนักที่หลงเฉินต้องแบกรับอยู่ภายในใจของเขา.....
"ช่วงเวลาอีกประมาณแปดวัน ผลกระจายวิญญาณจะสุก ข้าจะทำอะไรได้บ้างในช่วงแปดวันนี้เพื่อบรรลุชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ....."
พี่น้องทั้งสองคนจากตระกูลไป่กำลังจ้องมองที่หลงเฉินด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร ในขณะที่หลงเฉินยังคงไม่อ่อนข้อ ทันใดนั้นก็เกินความไม่สงบในฝูงชน หลงเฉินได้ค้นพบทันทีว่ามีคนปรากฏตัวขึ้นบนเวทีที่ว่างเปล่าในตอนแรก!
ถูกต้อง เป็นคนของตระกูลหยวนหลิงจากเมืองหยวนหลิงที่ได้ส่งคุณชายหลางผู้ลึกลับมา
วันนี้เขายังมีเสื้อคลุมปกปิดรูปลักษณ์ของเขา
ที่จริงฝูงชนเมืองไป่เห๋อหยางทั้งหมดตระหนักว่าน้ำเสียงของคุณชายหลางนี้ดูอ่อนวัยมากและอายุไม่มากนัก เขาอาจจะคิดว่าเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ยิ่งกว่าสวรรค์
เมื่อครั้งแรกที่เขาได้พบคุณชายหลาง หลงเฉินไม่สามารถระบุเพศของเขาได้ในทันที ในเวลานั้นเขาพบว่าบุคลิกภาพของคุณชายหลางค่อนข้างใจดีและชอบช่วยเหลือ แม้ว่าจะขี้อายก็ตาม อาจเนื่องมาจากการพบกันอย่างไม่เป็นทางการ แต่เมื่อได้พบกันเมื่อวานคุณชายหลางเจตนาทำตัวเย็นชาและสันโดษ เมื่อเขาสวมเสื้อคลุม
เวลายังไม่หมด เมื่อหลงเฉินจับรุ่นเยาว์ของตระกูลไ่ไว้เป็นตัวประกันได้และพวกเขาต้องการจากขุนเขาแห้งแล้งมาในภายหลัง แต่คุณชายหลางก็ได้ลำเอียงช่วยหลงเฉินและได้สิ้นสุดเวลาการแข่งขันก่อนเวลาที่กำหนดไว้
ดังนั้นหลงเฉินจึงรู้สึกขอบคุณต่อคุณชายหลางอย่างที่สุด
แม้ว่าคุณชายหลางอาจไม่คิดเช่นเดียวกัน แต่หลงเฉินได้ให้เขาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาแล้ว ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก็ไม่น่าจะผิด
ขณะนี้ทุกคนกำลังมุ่งความสนใจไปที่คุณชายหลางเพียงผู้เดียว เสียงอู้อี้ของคุณชายหลางเปล่งออกมาจากภายในผ้าคลุมของเขา
"ไป่เฉิงของตระกูลไป่ หยางคังฉงของตระกูลหยาง ก้าวมาข้างหน้า."
ไป่เฉิงและหยางคังฉงไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของคุณฃายหลาง พวกเขาก้าวออกไปอย่างเชื่อฟัง เดินไปยืนต่อหน้าคุณชายหลาง อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้มองกันและกันเลย
"ตอนนี้ข้าจะประกาศความสำเร็จของทั้งสองตระกูลในการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจ"
คุณชายหลางเปิดฝ่ามือขวาขึ้นและฝูงชนรีบมองไปและพบว่ามีแก่นแท้พลังงานสีเหลืองขนาดเล็กอยู่ในเมล็ดสีเหลืองและในไม่ช้าก็หัวเราะเสียงดัง
"ตระกูลหยาง......มีจำนวนหนึ่งแก่นแท้พลังงาน! จากปีศาจจิ้งจอกหางแดงระดับปฐพีขั้นที่ 1! "
ทุกคนในปัจจุบันต่างตื่นตกใจ รุ่นเยาว์ตระกูลหยางได้พ่ายแพ้เมื่อวานนี้อย่างแท้จริง เมื่อพวกเขามองไปที่แก่นแท้พลังงานอันน่าสงสารเพียงชิ้นเดียว พวกเขาคิดว่ามันได้มาจากตระกูลไป่ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่านี่จะเป็นของตระกูลหยางแทน ทันใดนั้นทำให้พวกเขามองกันและกัน พวกเขาต่างคิดว่า "สิทธิในการควบคุมเมืองไป่เห๋อหยางเป็นของตระกูลไป่? นี่……"
เมื่อคิดว่าตำแหน่งเจ้าเมืองแท้จริงแล้วจะตกเป็นของตระกูลที่โหดร้ายและโหดเหี้ยมเช่นตระกูลไป่ ฝูงชนทั้งหมดรู้สึกกระวนกระวายในหัวใจของพวกเขา ในอนาคตพวกเขาคงจะไม่สามารถอยู่ได้อย่างสงบสุข
ในขณะนั้นคุณชายหลางเริ่มกล่าว ทุกคนที่สนทนากันต่างเร่งรีบปิดปากเงียบ
เมื่อมาถึงจุดนี้คุณชายหลางได้มองไปรอบๆและเปิดฝ่ามือซ้าย ฝูงชนมองอย่างกระวนกระวาย แต่พบว่าไม่มีอะไรอยู่ในมือของเขา!
"ตระกูลไป่......มีจำนวนศูนย์แก่นแท้พลังงาน!"
การแสดงออกของฝูงชนได้กลายเป็นสดใสไร้ที่เปรียบ
ทุกคนคาดการณ์ถึงการต่อสู้ที่รุนแรงระหว่างสองตระกูลในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดคิดว่าตระกูลไป่จะสามารถได้รับแก่นแท้พลังงานของสัตว์ปีศาจระดับปฐพีขั้นที่ 8 และตระกูลหยางจะไม่เสียเปรียบมากที่สุดเพียงได้รับแก่นแท้พลังงานของสัตว์ปีศาจระดับปฐพีขั้นที่ 7 พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าผลของการต่อสู้จะเป็นไปได้ว่าตระกูลหยางจะได้รับแก่นแท้พลังงานระดับปฐพีขั้นที่ 1 ขณะที่ตระกูลไป่กลับว่างเปล่า
หลงเฉินหัวเราะที่ไม่มีใครได้รับแก่นแท้พลังงานสัตว์ปีศาจ แก่นแท้พลังงานของปีศาจจิ้งจิกหางแดง เป็นเพียงสิ่งที่เขาหาได้อย่างง่ายดายเมื่อเขากำลังมุ่งหน้าลงจากเขา

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น