DBWG บทที่ 23 : เจตนาสังหาร
DBWG บทที่ 23 : เจตนาสังหาร
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลงเฉินรู้ทันทีว่าเป็นใคร
หยางเสวี่ยฉิง
หลังจากได้ยินเสียงของหยางเสวี่ยฉิงแล้ว ไป่ชวี่ฉือก็นิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็มองไปที่หลงเฉินทันที ในขณะที่ทักษะดัชนีกาฬสวรรค์ที่เขารวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ เริ่มลดพลังลง
ส่วนหลงเฉิน เขายังไม่ได้ใช้ตราประทับมังกรไร้สี
"ท่านอา พวกเราอยู่ที่นี่..... "
หลังจากได้ยินเสียงหยางเสวี่ยฉิง หยางหลิงฉิงที่ร้องไห้เหมือนเด็กน้อยน้อยคนหนึ่งก่อนหน้านี้ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเรียกความร่าเริงออกมา
ในตอนแรกหยางเสวี่ยฉิงได้เห็นไป่ชวี่ฉือเพียงคนเดียวและมองไปที่ไป่ชวี่ฉือ แต่หลังจากได้ยินเสียงของหยางหลิงฉิงแล้ว นางก็เห็นว่าคนที่ไป่ชวี่ฉือกำลังเผชิญหน้าด้วยแท้จริงแล้วคือหลงเฉิน ดังนั้นสายตาอ่อนโยนของนางจึงถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาอย่างเดียว
หลงเฉินหัวเราะอย่างน่าสยดสยอง เขาต้องกราบกรานด้วยความชื่นชมในทักษะของสตรีคนนี้ในการเปลี่ยนท่าทางการแสดงออกของนาง อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเพชมากที่สุดคือความจริงที่นางได้จ้องมองอย่างอ่อนโยนต่อบุตรชายของคนอื่น ขณะที่มองบุตรชายของตัวเอง นางใช้สายตาที่เย็นชา
หลงเฉินไม่ได้สนใจที่จะทำความเข้าใจกับความรู้สึกที่ซับซ้อนของเขา นอกจากนี้เขายังไม่อยากมองไปที่หยางเสวี่ยฉิง ในขณะที่นางกำลังมองไปที่ไป่ชวี่ฉือด้วยความห่วงใย ดังนั้นเมื่อหยางเสวี่ยฉิงปรากฏตัวขึ้นเขาแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเริ่มเดินออกไป
"หยุด!"
เสียงเย็นชาของหยางเสวี่ยฉิงดังขึ้นข้างหูของเขา
หลงเฉินหันกลับมาและถามว่า "ข้าอยากจะรู้ว่าทำไม่ภรรยาของตระกูลไป่ถึงได้มองหาข้า? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นเพราะเรื่องที่ข้าทุบตีเศษขยะสองชิ้นของตระกูลไป่? อันที่จริง เศษขยะทั้งสองถูกทุบตีโดยข้า ดังนั้นข้าขอถามว่าเจ้าจะทำอย่างไรกับข้าตอนนี้?
คำพูดของหลงเฉินทำให้หยางหลิงฉิง ผู้ซึ่งรู้สึกตื่นเต้นกับการมาถึงของหยางเสวี่ยฉิงก่อนหน้านี้ถูกทำให้แฟบลงเหมือนบอลลูน นางมองไปที่หลงเฉินอย่างว่างเปล่า แล้วนางก็มองไปที่การแสดงออกที่น่ากลัวของหยางเสวี่ยฉิง เนื่องจากไม่ว่านางจะพยายามอย่างหนักแค่ไหนหลงฉิงก็ไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ได้
เสียงของหลงเฉิน มีคำดูถูกอยู่เป็นนัย ซึ่งทำให้หยางเสวี่ยฉิงยากที่จะหายใจ ต่อหน้าของทุกคน หลงเฉินไม่ได้ไว้หน้านาง นางได้กลายเป็นโกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองเห็นความเมินเฉยที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของเขา
แต่นางรู้เรื่องนี้ ตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ดีนักซึ่งจากข่าวการแต่งงานใหม่ของนาง ดังนั้นถ้านางจะทำอะไรกับหลงเฉินตอนนี้ก็จะเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ข่าวลือแพร่กระจาย นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับตระกูลหยางหรือตระกูลไป่
ดังนั้นหยางเสวี่ยฉิงจึงแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินคำดูถูกของหลงเฉิน และหันกลับไปและถามไป่ชวี่ฉือว่า "ชวี่ฉือ เรื่องของวันนี้อันดับแรกข้าต้องขอโทษตระกูลของเจ้า เกี่ยวกับที่เขาบอกว่าเขาได้ชนะสมาชิกในตระกูลไป่เป็นความจริงหรือไม่? "
ไป่ชวี่ฉือพยักหน้าและกล่าวว่า "เขาทำร้ายไป่จื้อซิงและไป่ชวี่ตงจริงๆ ข้าเพิ่งจะแก้ปัญหานี้กับเขาเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งอีกต่อไปในอนาคต เพื่อประโยชน์ของทั้งสองตระกูลของเรา แต่ท่านก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ทานน้าหยาง ชวี่ฉือเชื่อใจท่าน ดังนั้นท่านจึงสามารถพาเขากลับพร้อมกับท่านได้ "
มองไปที่เด็กหนุ่มผู้มีความสมเหตุสมผลนี้ หยางเสวี่ยฉิงรู้สึกพอใจกับเขามาก นอกจากนี้ยังมีการบ่มเพาะของไป่ชวี่ฉือด้วย การเข้าสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 7 เมื่ออายุยี่สิบปีนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ดังนั้นนางจึงพยักหน้าและกล่าว "ช่วยส่งความห่วงใยของข้าไปให้พ่อของเจ้าด้วย เรื่องของวันนี้ผมข้าเองจะไปขอโทษเขา ตอนนี้ข้าจะออกไปก่อน "
"ท่านน้าหยางโปรดดูแลตนเอง"
หลงเฉินมองไปที่คนทั้งสองที่แสดงการเสแสร้งนี้ เขาเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย
กับการปรากฏตัวฉับพลันของหยางเสวี่ยฉิง เรื่องก็จบลงเช่นเดียวกัน แต่สำหรับความแข็งแกร่งของไป่ชวี่ฉือ และแรงกดดันที่เขามีพร้อมกับการคุกคามของดัชนีกาฬสวรรค์, หลงเฉินได้ทำให้พวกหมดทั้งหมดชัดเจนในใจของเขา!
"ถ้าข้าไม่มีแผนที่จะตอบโต้กับดัชนีกาฬสวรรค์นี้ในระหว่างการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจ และข้าพบกับเขาและในขณะนั้นมีคนอีกไม่กี่คนอยู่รอบๆ ข้าจะต้องตกตายเป็นแน่!"
การแสดงความรักใครของหยางเสวี่ยฉิงและไป่ชวี่ฉือที่มีต่อกันทำให้หลงเฉินโกรธ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้
"การแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจและงานแต่งงานของพวกเขาคือวันเดียวกัน ถ้าข้าไป่ชวี่ฉือแล้วตระกูลไป่จะต้องเปลี่ยนเป็นงานศพแทน มันจะตลกถ้ายังคงจัดงานแต่งงานอย่างหน้าตาเฉย!"
สองเหตุการณ์ใหญ่ การแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจและการแต่งงานทำให้หลงเฉินสูญเสียเวลา 3 วันที่ผ่านมาในการคิดจัดการกับสิ่งต่างๆ เนื่องจากเขาต้องการสร้างความหายนะในงานแต่งงานและหยุดการแต่งงาน แต่เห็นได้ชัดว่าความแกร่งของเขาตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลไป่ที่ต้องการกำจัดเขาแม้แต่ตระกูลหยางก็ต้องการที่จะจัดการเขาทิ้งใบหน้า
คราวนั้นหลงเฉินได้เห็นไป่จ้านซ่งได้ลักพาตัวหญิงสาวจากเรือนยกเขียวมรกตด้วยตาของตัวเอง เขาแอบเดินตามหลังไป่จ้านซ่ง แล้วก็ได้รู้ว่าไป่จ้านซ่งใช้หญิงสาวเหล่านี้ขายให้กับกลุ่มคนที่มีจุดสีแดงอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของพวกเขา
ครั้งสุดท้ายที่เขาได้บอกกับหยางเสวี่ยฉิงแต่หยางเสวี่ยฉิงไม่เชื่อเขา
หลงเฉินเคยรู้สึกว่าเหล่าสมาชิกในตรกูลไป่นี้แปลกประหลาดเล็กน้อยและหากหยางเสวี่ยฉิงกำลังจะแต่งงานกับพวกเขาผลสรุปยังไม่แน่นอน
แต่ในตอนนี้เขาได้คิดถึงแผนการที่จะกอบกู้สถานการณ์
มองอย่างเย็นชาที่หยางเสวี่ยฉิงและไป่ชวี่ฉือที่กำลังสนทนากันอยู่ เขาคิดว่า "มีวิธีเดียวก็คือสังหารไป่ชวี่ฉือ หลังจากที่สังหารบุตรชายคนหนึ่งของเขาและฆ่าคนอื่นๆแล้ว พวกเขายังจะมีโอกาสได้แต่งงานอีกหรือ? "
และโอกาสที่ดีที่สุดที่จะสังหารไป่ชวี่ฉือ แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงระหว่างการแข่งขันล่าสัตว์ปีศาจ อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ หลงเฉินยังคงต้องพัฒนาตนเองอย่างมาก แต่เขาเพิ่งได้รับหญ้าฝันวิญญาณ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเรื่องนี้
หลังจากที่วางแผนอยู่ในใจแล้ว หลงเฉินก็ไม่มีความกังวลที่จะต้องเฝ้าดูต่อไป เมื่อเห็นว่าหลงเฉินแท้จริงแล้วกำลังจะจากไป หยางหลิงฉิงรีบตามเขามา
เมื่อมาถึงจุดนี้หยางเสวี่ยฉิงและไป่ชวี่ฉือเพิ่งจบสิ้นการสนทนา
แม้ว่านางจะดูอ่อนโยน แต่ลึกๆแล้วนางโกรธมาก กับฝูงชนจำนวนมาก ดังนั้นนางก็ไม่สามารถยืนกรานได้ แต่นางรู้ดีว่าเป็นแผนการ์ของหลงเฉินที่จะฉีกหน้านาง นางจะไม่ยอมให้หลงเฉินมีช่วงเวลาที่ดีเมื่อนางกลับไปที่ที่พักอาศัยของตระกูลหยาง
"ข้าช่วยเจ้ากลับมาจากมือของไป่ชวี่ฉือ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการช่วยชีวิตเจ้า แต่แท้จริงแล้วเจ้าไม่รู้จักตอบแทนความกรุณาของข้าและทำให้ข้าอับอายขายหน้าได้อย่างไร เจ้าทำข้าผิดหวังจริงๆ! "
"ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่มากนัก แต่ความหยิ่งยโสของเจ้าสูงมากและคิดว่าเจ้าสามารถเอาชนะทุกคนได้ เจ้าคิดได้อย่างไรว่าไป่ชวี่ฉือคือคนที่เจ้าสามารถเอาชนะได้...... "
มองไปที่การแสดงออกราวกับน้ำแข็งของหยางเสวี่ยฉิง ฝูงชนไม่กล้าเข้าไปใกล้นาง เดินออกจากตลาดของผู้ฝึกตน นางเห็นหลิงฉิงยืนอยู่รอนางอยู่ ดังนั้นหลังจากมองอีกครั้งนางก็ถามอย่างเหี้ยมโหดว่า "เขาอยู่ที่ไหน?"
หยางหลิงฉิงเริ่มรู้สึกกังวลและกล่าวว่า "พี่ใหญ่......เฉิน ขณะที่เราเดินออกมาก่อนหน้านี้เขาเห็นใครบางคน ดังนั้นเขาจึงบอกข้าว่าให้กลับไปก่อนแล้วเขาก็ไล่ตามคนๆนั้นไป ดังนั้นข้าไม่รู้อะไรเลย...... "
"ไล่ตามบางคน?"
หยางเสวี่ยฉิงงงงวยและนางหัวเราะเยาะ "นี่เป็นข้ออ้างเท่านั้น เขาเพียงแค่กลัวข้าต่อว่าเขา และใช้วิธีเด็กน้อยจริงๆ ตระกูลหลงถือว่าเป็นอันดับหนึ่งเรื่องกลอุบายจริงๆ...... "
หยางหลิงฉิงเม้มริมฝีปากของนาง ไม่กล่าวสักคำ
นางได้เห็นหลงเฉินไล่ตามคนอื่นจริงๆ เมื่อคนคนนั้นได้เห็นพวกเขาแล้วชายคนนั้นก็หลบหนีทันที แต่ตอนนี้หยางเสวี่ยฉิงกลับกล่าวว่ามันเป็นเรื่องโกหก ......
นางต้องการตอบโต้ แต่คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลงเฉินกับหบางเสวี่ยฉิงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากกว่าที่จะไม่กล่าวอะไร
หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว หยางเสวี่ยฉิงก็ถามว่า: "เสี่ยวฉิงเอ๋อร์ เจ้าสามารถบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องวันนี้ได้หรือไม่?"
ได้ยินเรื่องนี้หยางหลิงฉิงคิดว่านางมีโอกาสที่จะบอกกล่าวถึงเหตุผลอันสมควรในการกระทำของหลงเฉิน นางบอกหยางเสวี่ยฉิงด้วยความสัตย์จริงในเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น นางคาดหวังว่าหยางเสวี่ยฉิงที่แสดงท่าทางเย็นชาก่อนหน้านี้จะกล่าวชมเชยหลงเฉินในทันที แต่หลังจากที่หยางเสวี่ยฉิงฟังจบแล้ว ใบหน้าของนางก็ยังคงเป็นเช่นเดิมและกล่าว "โอ้? ความสามารถในการเอาชนะผู้ฝึกตนขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 6 สองคนหรือ? แม้กระนั้นก็ตามถ้าเขาต้องสู้กับผู้ฝึกตนในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 7 เขาจะไม่ไร้หนทางในการต่อสู้กลับหรือ? "
หยางหลิงฉิงมองภาพร่างของหยางเสวี่ยฉิงเดินจากไป แล้วนางก็เม้มริมฝีปากของนาง ตอนนี้นางก็เข้าใจทันทีว่าทำไมก่อนหน้านี้หลงเฉินจึงเผชิญหน้าไป่ชวี่ฉือโดยไม่ต้องการที่จะหนีแม้แต่ครึ่งก้าว แม้ภายใต้แรงกดดันมหาศาล.....
หลังจากที่วิ่งผ่านถนนไม่กี่แห่งแล้ว หลงเฉินก็คว้าตัวผู้ที่วิ่งอยู่ตรงหน้าเขาและการปัดป้องกริชที่ชายคนนั้นพยายามจะแอบโจมตีเขา จากนั้นเขาก็กระแทกคนผู้นั้นเข้าที่ห้องน้ำที่มีกลิ่นเหม็นแทรกซึมอยู่ในอากาศทันที ความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของหลงเฉินได้ผลักดันชายผู้นี้ไปติดที่กำแพง ชายคนนี้มีใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่สามารถแม้แต่จะขยับนิ้วมือได้
ก่อนหน้านี้เมื่อหลงเฉินเดินออกจากตลาดของผู้ฝึกตน เขาได้ชนไหล่กับชายผู้นี้และเห็นว่ามันกำลังถือกริช
ตอนแรกหลงเฉินไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่เขาก็จำได้ว่าคนที่เคยพยายามลอบสังหารเขาก็ใช้กริชเช่นนี้และพวกมันก็อยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 2 ร่างที่อยู่ต่อหน้าของเขาคล้ายกับคนเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงพยายามจะนึกถึงชายคนนั้น เขาไม่เคยคิดว่าเมื่อเขาเริ่มไล่ล่ามันแล้วคนที่แปลกประหลาดคนนี้เพราะความรู้สึกผิดของมันก็จึงวิ่งหนีเขา เมื่อถึงจุดนี้หลงเฉินก็ยืนยันได้ว่าชายคนนี้เป็นมือสังหารที่หนีรอดมาได้ครั้งก่อน
หลังจากที่ไล่ล่าในระยะเวลาอันสั้น หลงเฉินก็สามารถมันจนมุมได้ เขาหัวเราะเบาๆ "ข้าจะไม่พูดอะไรกับเจ้ามาก บอกคนที่สั่งการลอบสังหารข้ามา ถ้าเจ้ายังไม่อยากตาย"
หลงเฉินได้กลายเป็นคนแข็งแกร่ง ดังนั้นมือสังหารคนนี้ได้สิ้นหวังมานานแล้ว แต่หลังจากได้ยินว่าเขามีโอกาสที่จะรอดชีวิตกลับไปในสถานการณ์เช่นนี้ เขารีบถามว่า "ถ้าข้าบอกไป เจ้าจะไม่สังหารข้าจริงหรือ?"
หลงเฉินพยักหน้าพลางกล่าว "แต่เจ้าต้องออกไปจากเมืองไป่เห๋อหยาง"
นี่เป็นไปตามความคิดของมือสังหาร ดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่างสุภาพ "ง่ายมาก ตระกูลไป่ ไป่จ้านซ่ง"
หลงเฉินแปลกใจสองเรื่อง หนึ่งคือคนประหลาดผู้นี้พูดออกมาจริงๆ สองคือคำตอบของคนผู้นี้เป็นไป่จ้านซ่ง
"เขาแค่อยากจะแต่งงานกับแม่ของข้า ดังนั้นทำไมเขาจึงเสี่ยงที่จะต้องสังหารข้าเช่นนี้?"
หลงเฉินไม่สามารถคิดออกได้ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร
เมื่อมาถึงจุดนี้มือสังหารกล่าวว่า "ข้าไม่ได้หลอกลวงเจ้า ที่ข้าบอกเจ้านั่นเป็นเพราะข้ายังมีความเกลียดชังต่อมัน มันตกลงที่จะปล่อยบุตรสาวของข้าไปหลังจากที่ข้าทำงานสำเร็จ แต่ตอนนี้นางได้ถูกสังหารโดยมัน! ข้ายังคงอยู่ในเมืองไป่เห๋อหยางจนถึงตอนนี้เพื่อหาโอกาสที่จะแก้แค้น! "
หลงเฉินมองคนตรงหน้าที่ดวงตาสองข้างแดงก่ำขณะกำลังพูดถึงไป่จ้านซ่ง เขารู้สึกว่าชายคนนี้ไม่ได้โกหกและตอนนี้คนร้ายที่แท้จริงที่สั่งการลอบสังหารเขาไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไป ถ้าเป็นไป่จ้านซ่งแล้วมันก็เหมาะสม เพราะหลงเฉินต้องการจะจัดการกับเขาทางใดทางหนึ่ง
หลงเฉินปล่อยมือแล้วมองไปที่เขาและหัวเราะออกมาว่า "เจ้าต้องการเรียกร้องชีวิตของข้าและในวันนี้เจ้าได้จบลงภายใต้มือของข้าแล้ว แต่ข้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเจ้า ดังนั้นเพียงแค่เดินไปข้างหน้าและกินกองอึนี้!”
หลังจากกล่าวเรื่องนี้ก่อนที่มือสังหารจะตอบสนอง หลงเฉินก็ผลักเขาเข้าไปในกองอึ น้ำสกปรกกระเซ็นขึ้นมาและได้ยินเสียงจ๋อม หลงเฉินรีบหลบและคิดว่า: "ใกล้มาก โชคดีที่ข้าเร็วพอ ... "
ดวงอาทิตย์เริ่มตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก
"ซีน้อย ไปขุนเขาแห้งแล้งกัน"
หลิงซีงงงวยและถามว่า: "ทำไม? เจ้ากลัวแม่ของเจ้าทุบตี? เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวตราบเท่าที่ข้าได้ปรับแต่งหญ้าฝันวิญญาณนี้แล้ว ข้าก็สามารถปกป้องเจ้าได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้สตรีคนนั้นทำร้ายเจ้าอีกต่อไป"
หลงเฉินยิ้มและกล่าวว่า: "หญิงสาวเช่นเจ้ารู้อะไรบ้าง ข้าไม่ได้กลัวนาง แต่มีหลายคนที่อยู่ในที่พักอาศัยตระกูลหยาง ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการปรับแต่งหญ้าฝันวิญญาณและตรวจสอบและดูว่ามีอะไรอยู่ในตราประทับมังกร มันไม่สะดวกที่จะทำพวกมันในที่พักอาศัยของตระกูลหยาง
"ดังนั้นนี่คือเหตุผล ไปกันเถอะ สุดท้ายแล้วจะมีสิ่งที่อร่อยๆให้กิน...... "
เสียงของหลิงซีถึงแม้จะอ่อนแอ แต่ก็เผยความร่าเริงและความสุขออกมาด้วย
"กิน?"
“......”
“ฮึ่ม! เจ้าไม่รู้ แต่หลังจากที่ข้าเป็นแบบนี้ ข้าไม่เคยได้กินอะไรตั้งแต่นั้นมา ก่อนหน้านี้ข้าหาจิตวิญญาณบางอย่างให้ตัวเองและรสชาติก็ไม่ได้เลวร้าย ...... "
หลงเฉินหลังจากที่ได้ยินหญิงสาวคนนี้พูดถึงเรื่องนี้อย่างมีความสุขจริงๆ เขารู้สึกแย่มากๆอยู่ภายในใจ ไม่สามารถกินได้และเพียงแต่สามารถใช้ยาจิตวิญญาณเพื่อสร้างรสชาติของอาหารให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความมั่งคั่ง เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนสำหรับนาง
"ซีน้อย...... "
“หือ?”
"วันหนึ่งมันจะมาถึง วันที่เจ้าจะได้กินจริงๆ"
"จริงหรือ? ข้าเป็นคนตะกละมาก ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการเลี้ยงอาหารข้ามันจะไม่ง่ายเลย หญ้าฝันวิญญาณนี้ไม่เพียงพอที่จะกินสักคำสำหรับข้า ดังนั้นเจ้าต้องทำงานหนักขึ้น! "
"ได้! ข้ารับใช้ของท่านขอน้อมรับคำสั่ง! "

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น