DBWG บทที่ 21 : หมัดปีศาจแท้จริงห้าทิศทาง



DBWG บทที่ 21 : หมัดปีศาจแท้จริงห้าทิศทาง









(*หมายเหตุ: จากนิ้วมือเปลี่ยนเป็นดัชนี แก้ตอนก่อนหน้านี้ให้แล้วค่ะ*)


หญิงสาวที่มาจากตระกูลหยางในตลาดของผู้ฝึกตนนั้นควรจะเป็นหยางหลิงฉิงเท่านั้น


หยางหลิงฉิงได้ปฏิบัติต่อหลงเฉินเป็นอย่างดี ดังนั้นหลงเฉินจึงถือว่านางเป็นน้องสาวอย่างแท้จริง การคิดถึงข้อเท็จจริงที่ว่านางอาจถูกรังแก หลงเฉินไม่ได้กล่าวสิ่งใดและมุ่งหน้าไปยังที่มาของเสียง


เสียงดังก่อนหน้านี้ควรเป็นหยางหลิงฉิงใช้หมัดดาวตก


ตระกูลหยางและตระกูลไป่มักไม่มีความขัดแย้งใด ๆ แต่คราวนี้ หยางหลิงฉิงได้ใช้หมัดดาวตกซึ่งแสดงให้เห็นว่านางโกรธมาก


จากระยะไกล หลงเฉินได้พบกลุ่มคน ในหมู่พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คน แต่ไม่มีใครกล้าที่จะหยุดการต่อสู้ ถูกต้อง แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถที่ดี พวกเขาจะกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างตระกูลหยางและตระกูลไป่หรือ? พวกเขาจะไม่กลัวผลที่ตามมาได้อย่างไร?


หลงเฉินไม่ได้ใส่ใจเรื่องใดๆเลย ดังนั้นเขาจึงพุ่งเข้ามาอย่างฉับพลันและเขาไม่คาดคิดว่าหยางหลิงฉิงกำลังต่อสู้กับหญิงสาวผู้มีเสน่ห์ อย่างไรก็ตามในขณะนี้หยางหลิงฉิงไม่ได้มีพลังเหนือกว่า และดูเหมือนว่านางกำลังจะพ่ายแพ้


บุรุษวัยกลางคนกำลังคุยกันอยู่ข้างๆหลงเฉิน ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นเจ้าของร้าน


"พรสวรรค์ของหยางหลิงฉิงจากตระกูลหยางนี้ไม่เลว แม้ว่าไป่จื้อซิงของตระกูลไป่จะอายุมากกว่า การบ่มเพาะของนางอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 6 ดังนั้นนางจึงแข็งแกร่งกว่า "


"มีความแตกต่างของขั้นพลัง แต่หยางหลิงฉิงก็ยืนหยัดมานานแล้ว นี่ไม่เลวเลย"


"ตระกูลไป่และหยางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันตลอดเวลา ดังนั้นทำไมหญิงสาวทั้งสองจึงต่อสู้กัน?"


"ข้าไม่รู้ เมื่อข้ามาถึงพวกเขาทั้งสองได้ต่อสู้กันแล้ว "


"อาจเป็นเพราะเรื่องของเจ้าเมือง ดูเหมือนว่าเมืองไป่เห๋อหยางจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเร็วๆนี้ ...... "


หลงเฉินไม่ได้กล่าวสิ่งใดและรีบพุ่งเข้าไปในสนามรบ ขณะที่กำลังจะจู่โจม หลิงซีที่อยู่ข้างหูของเขาก็กล่าวอย่างกระทันหันว่า "นี่ เจ้าเห็นชายหนุ่มคนที่อยู่ตรงนั้นหรือไม่? ในกระเป๋าของเขามีก้านของหญ้าฝันวิญญาณ นั่นคือยาระดับปฐพีขั้นกลางซึ่งสามารถฟื้นฟูจิตวิญญาณได้!"


หลงเฉินเปลี่ยนไปจ้องมองชายหนุ่มผู้นั้น แล้วเขาก็วิ่งไปทางชายหนุ่ม เนื่องจากตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้อยู่ห่างไกลไป่จื้อซิงของตระกูลไป่มากนัก


"นั่นคือคนในตระกูลไป่ที่อยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 6 ไป่ชวี่ตง?"


มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สิ่งที่หลงเฉินต้องการไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ที่เขาคนนี้


แม้ว่าจะเป็นแค่หญ้าฝันวิญญาณ แต่หลงเฉินก็ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้อย่างแน่นอน


การเคลื่อนไหวของหลงเฉินได้ดึงดูดการแสดงออกด้วยความตกตะลึงจากทุกคนรอบๆตัว


"นี่น่าจะเป็น..... บุตรชายของบุตรสาวคนที่สามแห่งตระกูลหยางที่เพิ่งจะมีชื่อเสียงเมื่อเร็วๆนี้ใช่หรือไม่? ข้าได้ยินมาว่าเขาได้เข้าสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 5 แล้ว อย่างไรก็ตามเขายังคงขาดพลังเมื่อเทียบกับรุ่นเยาว์สองคนนี้จากตระกูลไป่"


"เขาดูเหมือนจะชนะหยางหลิงเยว่ก่อนหน้านี้ เมื่อนางอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 6 "


"เช่นนั้นข้าได้ยินมาว่าเขาใช้วิธีหยาบคายในการเอาชนะหยางหลิงเยว่ และในความเป็นจริงความสามารถที่แท้จริงของเขาไม่แข็งแกร่งนัก"


ขณะที่บุรุษวัยกลางคนสองคนคุยกันอยู่พวกเขาจ้องมองหลงเฉิน และกระหายใคร่รู้ที่จะคาดการณ์ว่า หลงเฉินจะทำอย่างไรต่อไป


หลังจากทั้งหมดฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 6  แต่เขาอยู่ในขั้นที่ 5 และยังคงกล้าที่จะผลีผลามในการต่อสู้


ในตอนนี้ทักษะแก่นแท้สวรรค์และปราณฉีจากขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 5 ของหลงเฉิน มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ดังนั้นแม้ว่าปราณฉีของเขาจะด้อยกว่าปราณฉีของทั้งสองคนหลายเท่า แต่ช่องว่างนี้ถูกเติมเต็มด้วยทักษะแก่นแท้สวรรค์!


แสงดาวจางๆค่อยๆกระจายออกมาจากร่างกายของเขาและจากความรู้สึกคุ้นเคยของกลิ่นอายของดวงดาว หยางหลิงฉิงตระหนักว่าหลงเฉินได้มาถึงในที่สุด


ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ เนื่องจากแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีพลังเพื่อเอาชนะนาง แต่ตอนนี้พวกเขาเพียงเล่นกับนางเท่านั้น


ทันใดนั้น รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ดึงดูดร่างกายของนาง หยางหลิงฉิงก็ถูกดึงกลับโดยหลงเฉิน หลังจากนั้น หลงเฉินได้เผชิญหน้ากับไปจื่อซิงผู้ซึ่งเล่นกับหยางหลิงฉิงก่อนหน้านี้ นางไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มคนหนึ่งจะปรากฏขึ้นทันทีต่อหน้าของนาง ดังนั้นนางจึงตกใจแล้วถอยหลังออกไปไม่กี่ก้าว


ทั้งคู่ได้ถอยหลังจากกัน


จากนั้นหยางหลิงฉิงก็เม้มริมฝีปากของนางและมองไปที่หลงเฉิน หลงเฉินเห็นว่านางกำลังจะร้องไห้ จึงถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"


หยางหลิงฉิงใช้สายตาขุ่นเคืองมองไป่จื้อซิง จากนั้นนางก็กัดฟันและกล่าว "ตัวข้าเองไม่รู้ว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น แต่ทันทีที่นางเห็นข้า นางก็เริ่มเหยียดหยามข้า ในที่สุดข้าก็อดไม่ได้และลืมคำเตือนจากท่านปู่ ... "


แม้แต่คนที่มีอารมณ์ดีเช่นหยางหลิงฉิงก็อดทนไม่ได้ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่ไป่จื้อซิงกล่าว ต้องเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก


"นางเหยียดหยามเจ้า? นางคิดว่าน้องสาวของข้าคือใครบางคนที่สามารถเหยียดหยามได้...... "


หลงเฉินมองไปที่อีกฝ่ายและจากนั้นการแสดงออกของเขาก็มืดมนอย่างรวดเร็ว


"น้องสาวหลิงฉิงกล่าวอะไรเช่นนี้? ข้าได้แลกเปลี่ยนสนทนากับเจ้าหลายคำ แล้วเจ้าก็โจมตีข้า ตัวข้าเองยังต้องการถามเจ้า ทำไมเจ้าถึงกล่าวว่าข้าทำผิดต่อเจ้า? "


การจ้องมองของหลงเฉิน ทำให้หญิงสาวฝ่ายตรงข้ามรู้สึกหวาดกลัว แต่แล้วคิดถึงความสามารถที่แท้จริงของหลงเฉิน นางก็กลายเป็นคนกล้าหาญและเริ่มแสร้งทำเป็นว่านางไร้เดียงสา


หลงเฉินเกลียดผู้หญิงที่กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ ภายนอกพวกนางดูไร้เดียงสา แต่ลึกลงไปในใจแล้วพวกนางล้วนเลวทราม เมื่อพวกนางทำสิ่งเลวร้ายพวกนางก็แสดงใบหน้าน่าสงสารและปฏิเสธ


แต่เดิมทั้งสองฝ่ายไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆดังนั้นเรื่องควรได้รับการปล่อยไป แต่เนื่องจากหลงเฉิน ต้องการหญ้าฝันวิญญาณ ตอนนี้เขามีข้ออ้าง ยิ่งไปกว่านั้น หลงเฉินก็จะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาไป


เขาตบไหล่หยางหลิงฉิงและกล่าวว่า "หลิงฉิง ข้าเป็นพี่ชายของเจ้ามาหลายปี แต่ข้าแท้จริงแล้วไม่ได้ก้าวขึ้นมาปกป้องเจ้าจนถึงตอนนี้ ดังนั้นวันนี้เจ้าแค่รอดู"


[TL : "พี่ชาย" เมื่อเขาพูดว่าพี่ชาย เขาไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นน้องสาวของเขามันแสดงออกถึงความจริงที่ว่าพวกเขาสนิทกัน]


คำพูดของหลงเฉินทำให้หยางหลิงฉิงเข้าใจบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้นคนอื่นๆ ก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร พวกเขาจึงมองหลงเฉินราวกับว่าคนโง่เง่า


หยางหลิงฉิงจับแขนเขาอย่างรวดเร็วและหยุดเขา จากนั้นนางก็กล่าวว่า "อย่าทำอย่างนี้  ลืมเรื่องวันนี้ไปเถอะ ไม่ต้องกล่าวถึงความจริงที่ว่าท่านปู่บอกว่าเราไม่ควรขัดแย้งกับตระกูลไป่ แต่อีกฝ่ายมีสองคนที่อยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 7 พวกเรา...... "


หลงเฉินยิ้มแล้วค่อยๆผลักมือหยางหลิงฉิงออกไป การตัดสินใจในสายตาของเขาทำให้หยางหลิงฉิงสูญเสียท่าทางของนางและในขณะนี้หลงเฉินก็เดินไปหาพวกเขาแล้ว


เมื่อมองไปที่หลงเฉินที่ดูเหมือนจะไม่กลัวที่จะตาย ฝูงชนเริ่มพูดคุยอย่างจริงจังและเริ่มเยาะเย้ยเขา


ก่อนหน้านี้ บุรุษวัยกลางคนทั้งสองก็ตกใจ เมื่อมองไปที่หลงเฉิน พวกเขากล่าวว่า "เด็กคนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะผลีผลามเล็กน้อย แต่ก็กล้าหาญ"


"ใช่ คนที่มีกล้ามเนื้อทั้งหมดแต่ไร้สมอง พวกเขาก็ตกตายไปแล้ว"


"รู้วิธีการอดทนแล้วกลับมาจากภูเขาไท่ซาน นั่นคือเส้นทางของกษัตริย์ "


[TL : "รู้วิธีการอดทนแล้วกลับมาจากภูเขาไท่ซาน นั่นคือเส้นทางของกษัตริย์" หมายถึง รู้วิธีการที่จะยับยั้งตัวเอง]


สำหรับไป่จื้อซิงและไป่ชวี่ตงหลังจากเห็นว่าหลงเฉินมีความกล้าที่จะต่อต้านพวกเขา ชั่วขณะก็ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าในขณะที่พวกเขากำลังเยาะเย้ย หลงเฉินก็ไม่ยอมให้โอกาสพวกเขา ขณะที่เดินขึ้นไปการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเป็นสีเข้มและขาข้างหนึ่งสั่นบนพื้นเขาก็บินไปทางทั้งสองเช่นลมกรด ดูเหมือนการกระทำของเขาดูเหมือนว่าเขาต้องการจัดการกับทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน!


ฝูงชนทันใดนั้นเริ่มส่งเสียงครึกโครม การกระทำของหลงเฉินทำให้พวกเขาสับสน แม้กระทั่งบุรุษวัยกลางคนทั้งสองที่กำลังคุยกันอยู่ตอนนี้กำลังมองเขาด้วยความตกใจและแปลกใจ


"เด็กคนนี้......ประหลาดจริงๆ ปราณฉีของเขาไม่เพียงพอ แต่ความกล้าของเขาไม่ได้..... "


ที่จุดนี้ถ้ามองไป่จื้อซิงและไป่ชวี่ตง จะสังเกตเห็นได้ว่าในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการดูถูก สำหรับไป่จื้อซิงก้าวร้าวอยู่เสมอ ดังนั้นนางจึงก้าวไปข้างหน้าก่อนขวางเส้นทางของหลงเฉิน


ในขณะนี้หลงเฉินก็พุ่งไปตรงหน้านาง พลังงานลมมหึมาอัดแน่นภายในนิ้วมือของเขา ทันใดนั้นพายุหมุนเริ่มหมุนรอบๆ ดัชนีของเขา เสียงอันทรงพลังของปราณฉี ทำให้ไป่จื้อซิงขมวดคิ้ว!


นางแสยะยิ้มเย็นชาและร่างกายของนางเริ่มระเบิดปราณฉีออกมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝ่ามือขวาของนางกำเป็นหมัด ก่อนที่หลงเฉินจะเข้าประชิดตัวนาง นางก็ได้เหวี่ยงหมัดออกไปแล้ว ภายใต้การสนับสนุนของฉี แรงกระโชกอันรุนแรงของปราณฉีไปทางหลงเฉิน ภายใต้การโจมตีนั้นมีภาพกำปั้นไม่กี่ภาพ ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเลือนราง


"หมัดปีศาจแท้จริงห้าทิศทาง!"


ทันใดนั้นหลงเฉินต้องเผชิญหน้ากับภาพกำปั้นทั้งทั้งห้าทิศทางเช่นนี้ อย่างไรก็ตามเขาได้เพียงแค่หัวเราะเท่านั้น และจากนั้นการโจมตีด้วยดัชนีซึ่งเขาได้เตรียมการมานานแล้วก็เข้าปะทะกับมันเช่นกัน ทันใดนั้นพายุหมุนขนาดใหญ่ที่สามารถขุดรากถอนโคนถอนและทำลายป่าไม้ได้ ก็พุ่งเข้าหาไป่จื้อซิง!


"เก้าดัชนีแห่งปีศาจวายุ!"


"ดัชนีที่หนึ่งชี้!"


"ดัชนีที่สองเจาะ!


"ดัชนีที่สามปฏิวัติ!"


"ดัชนีที่สี่ทำลายล้าง!"


สิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจก็คือการหลั่งไหลของพลังมหาศาลของหลงเฉิน ทำให้ไป่จื้อซิงหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง หลงเฉินได้โจมตีด้วยดัชนีต่อเนื่องกันและหมัดปีศาจแท้จริงห้าทิศทางถูกทำลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย!


แม้ว่าไป่จื้อซิงได้ใช้พลังทั้งหมดของนางในรวมรวบปราณฉี พลังอันรุนแรงของหลงเฉินทำให้ปราณฉีของนางไม่เสถียร ใบหน้าของนางซีดขาวและมองไปที่หลงเฉิน ด้วยการจ้องมองของเขาที่ดูอันตรายถึงตาย นางรู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย


หลงเฉินไม่ได้แสดงความเมตตาใด ๆ ในการโจมตีของเขา อารมณ์รุนแรงของเขาทำให้ทุกคนที่เห็นฉากนี้ปากซีดตัวสั่น นี่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับหยางหลิงฉิงเพราะนางรู้ดีว่าหลงเฉินฝึกฝนหมัดดาวตกมาก่อนหน้านี้


"เมื่อใดกัน ที่เขาได้เรียนรู้เก้าดัชนีแห่งปีศาจวายุ? และวิธีที่เขาใช้มันก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่พี่สาวหลิงเยว่ใช้ เขาสามารถใช้ออกได้กี่นิ้วกัน? "


หยางหลิงฉิงได้มองหลงเฉินอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้หลงเฉินช่วยนางไว้ ดังนั้นเมื่อถึงจุดนี้นางได้วาง หลงเฉินเป็นเสาหลักที่คอยคำจุ้นจิตใจแล้ว ตอนนี้นางกำลังมองหาหลงเฉินที่กำลังต่อสู้ด้วยชีวิตของเขาอยู่ นางก็เข้าใจว่าหลงเฉินหมายถึงสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้


"หลิงฉิง ข้าเป็นพี่ชายของเจ้ามาหลายปี แต่ข้าแท้จริงแล้วไม่ได้ก้าวขึ้นมาปกป้องเจ้าจนถึงตอนนี้ ดังนั้นวันนี้เจ้าแค่รอดู"


ประโยคนั้นจะสั่นสะเทือนอยู่ในใจนางตลอดไป


ในขณะที่มองไปที่หลงเฉินผู้ซึ่งใช้เก้าดัชนีแห่งปีศาจวายุตามลำดับอย่างต่อเนื่อง และเป็นเหตุให้ไป่จื้อซิงสูญเสียในหน้าของนาง หยางหลิงฉิงรู้สึกสบายใจโดยที่ดวงตาของนางกลายเป็นแดงก่ำเพราะนางได้วางหลงเฉินเป็นพี่ชายของนางไว้ในใจมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่หยางจ้านไม่เคยก้าวขึ้นมาปกป้องนางเลย


อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ว่าทำไมหลงเฉินถึงทำอย่างสุดความสามารถ นอกจากการก้าวขึ้นมาปกป้องนางแล้วก็เป็นเพราะหญ้าฝันวิญญาณ


เมื่อมาถึงจุดนี้หลงเฉินตะโกนและยังมีอีกหนึ่งดัชนีที่เหมือนลมกรดมาถึงอย่างน่าตกตะลึง!


"ดัชนีที่แปดทำลายล้างจักรวาล!"


ไป่จื้อซิงรีบใช้แขนทั้งสองข้างเพื่อสกัดกั้น แต่พลังรุนแรงที่เกิดขึ้นกระทบแขนของนางและทำให้อาภรณ์ที่อยู่บนแขนของนางฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ได้ในทันที และนางก็กระอักเลือดออกจากปาก!


ไป่จื้อซิงทรุดตัวลงต่อหน้าหลงเฉิน  ที่จุดนี้ไป่ชวี่ตงผู้ซึ่งกำลังประมวลสิ่งที่เกิดขึ้น มองไปที่ฉากนี้ด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ ชั่วขณะกลับกลายเป็นความโกรธอันเหลือล้น


เขายืนอยู่ห่างไปไม่กี่เมตรข้างหลังไป่จื้อซิงและกำลังมองไปที่สถานการณ์ เช่นเดียวกับที่เขาต้องการจะระเบิดปราณฉีของเขาและมีต่อสู้เป็นตายกับหลงเฉิน เขาก็ตัดบทเนื่องจากเป้าหมายของหลงเฉินตลอดมาคือไป่ชวี่ตง ดังนั้นหลังจากที่ทุบตีไป่จื้อซิง หลงเฉินไม่ปล่อยให้ไปชวี่ตงไป ในขณะนั้นดัชนีที่รวบรวมสายลมอันบ้าคลั่งปรากฏต่อหน้าไป่ชวี่ตง และตรงไปยังศรีษะของเขา ถ้าเขาถูกการโจมตีนี้ ศรีษะของไป่ชวี่ตงจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!


"ดัชนีที่เก้าคำบัญชาแห่งสวรรค์และปฐพี!"


การกระทำของหลงเฉิน ได้เรียงเสียงดังเอะอะของฝูงชน


คนที่มีสายตาสามารถบอกได้ว่าหลังจากที่ถูกโจมตีฉับพลันโดยหลงเฉิน ไป่ชวี่ตงจะไม่สามารถหลบเลี่ยงได้


ไป่ชวี่ตงผู้ตระหนักถึงสิ่งนี้ เพราะการโจมตีฉับพลันโดยของหลงเฉิน แม้ว่าเขาจะดึงปราณฉีออกมาด้วยพลังทั้งหมดของเขาและพยายามที่จะหลีกหนี เขาก็ยังไม่มีเวลาเพียงพอ!


เงาแห่งความตายนั้นค่อยๆคลืบคลานเข้ามาต่อหน้าต่อตาของเขา มองไปที่นิ้วมือที่ดูคมเหมือนดาบชั้นดี ไป่ชวี่ตงรู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนแรง ขาทั้งสองข้างของเขาอ่อนแรงและด้านล่างหว่างขาของเขากลายเป็นพื้นที่ที่มีสีเข้มและเปียกชื้น ตามที่ปรากฏเขาแท้จริงแล้วได้ปัสสาวะรดตัวเอง.....


แม้ว่าพื้นที่กลางหว่างขาของไป่ชวี่ตงจะเปียก แต่ฝูงชนไม่ได้ล้อเลียนเขา เพราะในเบื้องหน้าความตาย ทุกคนมีสิทธิที่จะปัสสาวะรดตัวเอง......


อย่างไรก็ตามการสังหารไป่ชวี่ตงได้กลายเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจสำหรับเมืองไป่เห๋อหยาง ดังนั้นหลังจากที่ฝูงชนตระหนักเรื่องนี้ คอของพวกเขากลายเป็นแห้งผาก


"คนผู้นี้...... เขาไม่คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรืออย่างไร?"




ก่อนหน้า



ความคิดเห็น